วันที่เหมาะกับขนมปัง ซุป และแมว เป็นเรื่องราวชีวิตที่พลิกผันของ “อากิโกะ” เมื่อเธอต้องสูญเสียแม่ไปอย่างกระทันหัน แถมงานที่ทำมาเป็นสิบปีก็มีการเปลี่ยนแปลง อากิโกะจึงตัดสินใจลาออกมาและมาปรับปรุงร้านอาหารที่แม่ทิ้งไว้ให้ในแบบที่เธออยากทำ ร้านของเธอขายเพียงแค่ซุปกับขนมปัง ที่เธอพิถีพิถันปรุงเป็นอย่างดี
อ่านเรื่องย่อคร่าว ๆ แล้ว เอาจริง ๆ ก็ยังนึกไม่ออกว่าเรื่องราวของอากิโกะจะเป็นเช่นไร อาจเพราะความเรียบง่ายของหนังสือญี่ปุ่นนี่แหละที่ทำให้รู้สึกว่าเราไม่อาจอ่านเอาเรื่องได้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องคิดตามไปด้วยว่านักเขียนกำลังจะพาเราไปเจอกับอะไร แน่นอนว่าการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตของอากิโกะ ถือเป็นความกล้าหาญแต่เรียบง่าย ที่หลายคนอยากกล้าแต่ไม่อาจกล้าได้แบบเธอ บางครั้งชีวิตก็จำเป็นต้องเลือก หากต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ก็เหมือนกับอากิโกะที่จำเป็นต้องทิ้งร้านดั้งเดิมของแม่ เพราะเธอก็มีทางในแบบของตนเอง
หนังสือพาให้เราค่อย ๆ ทำความรู้จักอากิโกะทีละนิด เราได้รู้ว่าเธอเป็นคนมองโลกด้วยความเข้าใจ แม้จะไม่พอใจทุกอย่างที่แม่ทำ แต่อากิโกะก็เลือกที่จะเข้าใจแม่ ความสัมพันธ์ของสองแม่ลูกอาจดูเหมือนห่างเหิน แต่ไม่ใช่เพราะไม่รัก เพราะรักต่างหาก แต่ละคนจึงปล่อยให้อีกคนได้เดินไปตามทางที่เลือก แม่หวังให้อากิโกะมีชีวิตที่ก้าวหน้าและได้แต่งงาน แต่เมื่ออากิโกะไม่ได้เลือกทางที่แม่ต้องการ แต่แม่ก็ภาคภูมิใจเพราะแม่รักและดีใจที่ลูกสาวมีความสุข
ทั้งนี้ชีวิตของอากิโกะก็มีดราม่าแอบซ่อนไว้เช่นกัน แต่อาจเพราะกาลเวลาช่วยทำให้เธอเข้าใจชีวิต และอย่างที่ที่นักเขียนสื่อมาตั้งแต่ต้น เมื่อเราเข้าใจชีวิต เราอาจทุกข์ได้ แต่ความทุกข์นั้นจะไม่ทำให้เราจมอยู่กับความรู้สึกผิด เพราะชีวิตมันต้องก้าวเดินไปข้างหน้าตลอดเวลา แค่บางคนอาจใช้เวลานานสักหน่อยเท่านั้น ชีวิตของอากิโกะไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป เธอมีร้านอาหารในแบบที่ฝัน มีเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก และแน่นอน เธอมีความทรงจำที่แสนสุขกับเจ้าแมวตัวอ้วนที่เธอเรียกมันว่า “ทาโระ”