ก่อนอื่นพ่อแม่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในช่วงวัยนี้เป็นวัยที่ลูกเริ่มมีบุคคลิกที่ชัดเจน มีความรู้สึก มีความคิดที่อยากจะเป็นคนสำคัญ อยากได้คำชมจากคนรอบข้าง ดังนั้นพฤติกรรมที่แสดงออก ก็คือ การพยายามเป็นคนเก่ง อยากเอาชนะ เพราะอยากได้คำชื่นชมจากคนรอบข้าง กลัวการพ่ายแพ้ เพราะรู้สึกเป็นเรื่องน่าอาย โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ลูกมีพฤติกรรมอยากเอาชนะ หรือกลัวการแพ้ ก็คือ
เนื่องจากในวัยนี้เริ่มเป็นวัยที่เกิดการเรียนรู้ และเลียนแบบพฤติกรรมจากคนรอบข้าง ดังนั้นเขาจึงพยายามสร้างตัวตน หรือพยายามเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ เราจึงจะเห็นได้ว่า ในวัยนี้ลูกจะมีความพยายามในการเรียนรู้ และทำสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อพัฒนาตนเอง และอยากให้ตนเองเก่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใหญ่หรือคนรอบข้างยอมรับ ซึ่งบางครั้งความพยายามนั้น อาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ชอบเอาชนะ อยากเป็นที่หนึ่ง กลัวการพ่ายแพ้ ดังนั้นพ่อแม่จึงควรให้เหตุผล และพูดคุย ทำความเข้าใจกับลูก หากบางสิ่งที่ลูกทำนั้นไม่สำเร็จ หรืออาจส่งเสริมได้ด้วยการพาลูกไปทำกิจกรรมที่เขามีความถนัด หรือมีความชอบ เพื่อให้ลูกได้ซึมซับประสบการณ์ดี ๆ ที่เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบและประสบความสำเร็จ
เพราะในช่วงวัยนี้ลูกเริ่มมีการเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวได้ดีขึ้น ดังนั้นเขาจึงเริ่มรู้จักการแยกแยะสิ่งดี ไม่ดี ถูก ไม่ถูกได้มากขึ้น ดังนั้นเขาจึงมีความเข้าใจถึงการเปรียบเทียบ และไม่อยากที่จะถูกเรียกว่าตัวเองไม่ดี หรือเป็นเด็กไม่เก่ง จึงพยายามที่จะแสดงออกโดยการทำตัวให้เป็นคนเก่ง หรือเป็นเด็กที่โดดเด่น เพื่อที่จะไม่ให้พ่อแม่ หรือคนรอบข้างชื่นชมนั่นเอง
ในช่วงวัยนี้ถึงแม้ลูกจะเริ่มมีกระบวนการคิด และมีเหตุผลในหลาย ๆ เรื่อง แต่ลึก ๆ แล้ว การตัดสินใจ หรือการแสองออกส่วนใหญ่ยังมาจากการใช้อารมณ์เป็นหลัก ดังนั้นเราจะเห็นว่าในเรื่องบางเรื่องลูกจะยังไม่สามารถยอมรับและทำความเข้าใจได้ เช่น เวลาเล่นเกมส์ ถ้าลูกแพ้ ลูกก็อาจจะมีโวยวาย เพราะอยากเอาชนะ สิ่งที่พ่อแม่จะต้องช่วยก็คือ อธิบายให้ลูกเกิดความเข้าใจว่า ในการเล่นเกมส์แต่ละเกมส์ จะต้องมีกฎกติกา ซึ่งย่อมมีผู้แพ้ – ผู้ชนะ ซึ่งหากเราแพ้ เราก็ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่โวยวาย ตั้งสติ และค่อย ๆพยายามแก้ตัวใหม่ในการเล่นครั้งต่อไป