ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันนะคะว่า หากลูกขาดทักษะการคิดที่เป็นระบบ จะส่งผลอย่างไรต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของลูกบ้าง
มีพ่อแม่จำนวนไม่น้อยที่มุ่งเน้นให้ลูกเรียนพิเศษ หรือเรียนเสริมในหลาย ๆ วิชา แต่พ่อแม่รู้หรือไม่ว่าเนื้อหาวิชาต่าง ๆ ที่ลูกเรียนรู้นั้น ได้ถูกจัดเก็บ หรือซึมซับมากน้อยเพียงใด มีเด็กจำนวนมากที่ขาดการจัดการทางความคิด ถึงมีข้อมูลมาก แต่พวกเขาคิดไม่เป็น ประมวลผลไม่ได้ ส่งผลให้เมื่อต้องนำไปใช้ในห้องเรียน หรือในห้องสอบ เกิดความสับสน ไม่สามารถตอบคำถามครูได้ ไม่สามารถทำข้อสอบได้ คิดช้า เพราะดึงข้อมูลต่าง ๆ ออกมาใช้งานได้ไม่ดี ส่งผลให้ลูกขาดความเชื่อมั่น และสะสมเป็นปัญหาที่เพิ่มมากขึ้นในที่สุด
เพราะสมองลูกมีความซับซ้อนและทำงานเป็นระบบ แต่หากลูกของเรารับข้อมูลมา แต่ไม่ได้ถูกจัดเก็บให้เป็นระบบแล้ว ก็จะส่งผลต่อเนื่องไปสู่ภาวะทางอารมณ์ และบุคลิกความเชื่อมั่น เพราะการที่สมองประมวลผลช้า จะทำให้ลูกเกิดความสับสน และไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ควรทำก่อน – หลังได้ ก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องของภาวะการตัดสินใจตามมา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเข้าห้องสอบ อาจเกิดความลังเลในการทำข้อสอบ จนทำข้อสอบไม่ทัน หรือเมื่อเจอกับปัญหาเฉพาะหน้า อาจตัดสินใจแก้ไขปัญหาเองไม่ได้ สุดท้ายไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้ด้วยตนเอง
เมื่อลูกขาดการคิดที่เป็นระบบแล้ว ก็จะส่งผลต่อเนื่องไปสู่การเรียนรู้ ลูกจะกลายเป็นเด็กที่เข้าใจอะไรได้ยาก เพราะเขาไม่สามารถดึงองค์ความรู้ที่มีอยู่ มาเชื่อมโยงเพื่อทำความเข้าใจกับความรู้ใหม่ได้ ส่งผลให้ลูกเกิดความเฉื่อยชา และกลัวที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ เมื่อกระบวนการเรียนรู้ไม่เกิดขึ้น ก็จะส่งผลให้ลูกพัฒนาการล่าช้า เรียนรู้ช้า และไม่สามารถประมวลผลความรู้เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้