Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เข้าใจวัยรุ่นหน่อย อย่าเอาแต่สบถว่า โอ้ย...เด็กสมัยนี้ !

Posted By Plook Magazine | 22 เม.ย. 63
7,090 Views

  Favorite

พวกเราอยากอธิบายหน่อย เพราะโดนผู้ใหญ่ถอนหายใจใส่พร้อมกับพูดว่า “โอ้ย เด็กสมัยนี้” มา คือเขาก็พูดเบา ๆ ของเขา แต่เราดันหูดีไปได้ยินเอง เลยอยากจะขอพื้นที่บนโลกโซเชียลอธิบายหน่อยนะค่ะ (ว๊ายตายแล้ว เผลอใช้นะคะผิดอีกแล้ว คุณพี่ตาขวางคนนั้นเขาจะด่าเราอีกไหมเนี่ย เฮ้อ...ผู้ใหญ่สมัยนี้) 

 

 

เด็กสมัยนี้ใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง

พวกเราเก็ทนะว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงหงุดหงิดกับการใช้ภาษาของพวกเรา คืออยากจะบอกว่าพวกเราแค่ชินมือไปหน่อย เวลาตอบเพื่อนในไลน์หรือในเฟซบุ๊ก บางครั้งก็พิมพ์ไปเพื่ออรรถรสล้วน ๆ เช่น ถ้ารอคิวนานมากก็จะพิมพ์ว่า “วันนี้รอคิวโคตรรรรรรนานนนนนนนนนเลยยยยยยยย” ก็มันได้อรรถรสกว่าพิมพ์ว่ารอคิวโคตรนาน ซึ่งพวกเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ภาษาวิบัตินะ แต่มันเป็นภาษาพูด ใช้แค่ในโซเชียลเท่านั้นแหละ เวลาเรียนหรือทำการบ้านส่งอาจารย์ก็คงไม่เปรี้ยวเขียนแบบนั้น เพราะติด 0 มามันไม่ตลกเลย

 

 

แต่คำว่า คะ/ค่ะ หรือคำที่ต้องใช้สกิลการผันวรรณยุกต์ พวกเรายอมรับว่ามันยากเหมือนกัน ตอนนี้ก็กำลังหัดอยู่และกำลังคล่องขึ้น เพราะมีหลักจำเวลาก่อนจะพิมพ์คำว่า คะ/ค่ะ ก็จะนึกถึง “โยคะค่ะ” ก่อนจะได้ใช้ถูก ตอนนี้คล่องขึ้นเพราะกลัวเพื่อนแซะเวลาพิมพ์ผิด (เห็นไหมคะ เพื่อนก็ไม่ได้สนับสนุนให้ใช้คำผิด) แต่เอาเป็นว่าวันก่อนเห็นผู้ใหญ่หลายคนในเฟซบุ๊กยังใช้ คะ/ค่ะ ผิดอยู่เลย และพิมพ์ผิดตั้งหลายคำด้วย ไม่รู้ว่าเพื่ออรรถรสหรืออะไรเหมือนกันนะคะ

 

 

เด็กสมัยนี้ติดเกมงอมแงม

คุณพี่จะให้พวกเราไปวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่นอย่างเดียวเหรอ พวกเราเคยอ่านมาว่าเด็กสมัยไหนก็ติดเกมทั้งนั้นแหละ แต่เกมมันแค่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้นเอง คนสมัยก่อนก็อาจจะโดดยาง เป่ากบ แต่เดี๋ยวนี้เด็กอย่างเราอยู่กับเกมออนไลน์ เกมออนไลน์คือความสนุกของพวกเรา โดยเฉพาะพวกเพื่อนผู้ชาย พอมีอะไรใหม่ ๆ ออกมาเป็นต้องลองเล่นกันหน่อย บางทีก็เล่นฆ่าเวลาไม่ได้ถึงขั้นติดจนไม่เป็นอันทำอะไร แต่เพื่อนบางคนก็ติดจริง ๆ นอนในร้านเกมได้เลย ข้าวปลาไม่กิน เก็บเงินไปเติมบัตรซื้อไอเทมใหม่ เราก็ไม่ขอแก้ตัวแทนหรอกนะ

 

แต่บางครั้งเดินผ่านร้านเกมก็เห็นผู้ใหญ่นั่งเล่นอยู่ข้างเด็กเยอะแยะไป มันอาจจะเป็นเพราะว่าเขาสนุกกับการเล่นเกม ถ้าไม่เสียการเรียน พ่อแม่เข้าใจก็อย่าไปว่าเด็กเลย แต่ถ้าเล่นมากเกินไปก็เข้ามาบอกกันได้ ให้อยู่ในลู่ทางที่เหมาะสม โตไปพวกเราก็ยังเป็นอนาคตของชาติได้ และมีผลการวิจัยออกมาเยอะแยะเลย ว่าการเล่นเกมนั้นช่วยพัฒนาสมอง มีข้อดีมากมาย ไม่ได้เล่นแล้วหัวรุนแรง โง่ สมาธิสั้น ไม่เชื่อก็ลองเสิร์ชกูเกิลหาอ่านได้จ้า

 

 

เด็กสมัยนี้เถียงคำไม่ตกฟาก

ผู้ใหญ่บางคนชอบเอาเด็กที่คิดไม่เป็นกลุ่มนึงมาเหมารวมว่าเด็กทั้งหมดคิดไม่เป็น พวกเราเลยอยากจะบอกว่าผู้ใหญ่บางคนก็ไม่มีศิลปะในการสอนเด็ก คิดแค่ว่าตัวเองโตกว่าจะกดเด็กที่อายุน้อยกว่ายังไงก็ได้ ซึ่งนั่นทำให้เด็กยิ่งเถียงไม่พัก อีกอย่างคือ เราโตมากับสังคมที่มีค่านิยมว่าเด็กที่แย้งผู้ใหญ่คือเด็กดื้อ คำว่า “ห้ามเถียงผู้ใหญ” ก็เลยถูกฝังอยู่ในหัวทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ดังนั้นเวลาที่เด็กเริ่มอธิบายบางอย่าง แค่จะอ้าปากมันก็จะกลายเป็นว่าเราเถียงทันทีเลย

 

ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจก่อนว่าเด็กสมัยนี้มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน เขามีสิ่งที่อยากจะพูดและแสดงความคิดเห็นในทุกเรื่องเหมือนกัน และบางเรื่องเด็กก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เราผิดในสายตาผู้ใหญ่เพราะแค่อายุน้อยกว่า ประสบการณ์น้อยกว่า ซึ่งมันแก้ไขยากมากถ้าหากผู้ใหญ่คนนั้นมีทัศนคติแคบ เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ กลัวเสียหน้า ถ้าเจอผู้ใหญ่แบบนี้ เด็กอย่างเราก็คงทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่รอให้โตกว่านี้และกลับไปถอนหงอกทีหลัง เฮ้อ...ผู้ใหญ่สมัยนี้ น่าจะคิดถึงตอนที่ตัวเองเป็นวัยรุ่นบ้างนะ

 

 

เด็กสมัยนี้อยากมีแฟนเร็ว แก่แดด ใจง่าย

หนูไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ใหญ่ในบ้าน หรือป้าข้างบ้านชอบคิดว่าหนูอยากมีแฟน คือหน้าดูอยากมีแฟนตลอดเวลาเลยเหรอ ? แล้วถ้าเด็กอย่างหนูอยากมีแฟนบ้าง มันผิดมากเลยเหรอคะ หนูเห็นมาหลายคนแล้วที่เวลามีแฟน ผู้ใหญ่ก็ชอบหาว่า แก่แดดบ้างล่ะ ใจง่ายบ้างล่ะ วันไหนไม่พูดไม่จาก็หาว่าเครียดเรื่องผู้ชายเรื่องหญิงตลอดเลย ซึ่งถ้าพวกหนูรักกันแบบเปิดเผย ไม่เสียการเรียน มันก็อยู่ในกฎกติกาดีไม่ใช่เหรอคะ หนูรู้ค่ะว่าผู้ใหญ่เป็นห่วง และอาบน้ำร้อนมาก่อน อาบมาก่อนหลายอ่างมาก ๆ แต่หนูแค่ชอบใครสักคนมันเป็นเรื่องของหัวใจค่ะ ห้ามได้ยังไง ถ้าหัวใจหนูเต้นแรงเพราะเขา

 

ผู้ใหญ่ที่ดีจะต้องมาพร้อมคำแนะนำที่ดีค่ะ ไม่ใช่ห้ามไปซะหมด เด็กเองก็รู้ว่าผู้ใหญ่เป็นห่วง แต่เรื่องมีแฟนมันห้ามกันไม่ได้ เด็กบางคนไม่ได้อยากมีแฟนค่ะ บางทีมันก็มาเอง ขอความยุติธรรมและคำแนะนำดี ๆ แทนจะดีกว่า อย่าลืมนะคะคนสมัยก่อนอายุเท่าหนู เขามีลูก มีครอบครัวกันแล้ว วิชาสังคมบอกมาค่ะ มีแฟนเร็วกว่าพวกหนูอีก แหม

 

 

เด็กสมัยนี้ไม่มีมารยาท พูดจาหยาบคาย

ยอมรับว่าพวกเราก็ไม่ชอบที่ได้ยินเด็กวัยเดียวกันพูดมึง กู ไอ้เ -ี้ ย ไอ้สั - บนรถเมล์แบบเสียงดังมาก หรือเวลาไปดูหนังในโรงหนังแล้วเจอเพื่อนอายุเท่ากันคุยเสียงดังไม่เกรงใจคนข้าง ๆ เหมือนกัน เพราะมันดูไม่มีมารยาท บางครั้งก็อยากเตือนเหมือนกันว่าอย่าเสียงดัง (โว้ยยย) แต่เห็นว่าเขามากับเพื่อนเป็นแก๊งก็คงเม้าท์เรื่องสนุก ๆ กันอยู่ เราจะไปเผือกก็ไม่ได้เพราะอายุเท่ากัน

 

แต่ผู้ใหญ่ทำได้ ถ้าบอกกันดี ๆ เด็กเข้าใจอยู่แล้ว แค่พูดออกมา เตือนกันแบบที่ผู้ใหญ่เตือนเด็ก ถามว่าเด็กจงใจกวนประสาทหรือมีจุดประสงค์อยากสร้างความหงุดหงิดให้ไหม เราตอบได้เลยว่าไม่จ้า แต่ที่ทำลงไปก็เพราะความเคยชินและไม่รู้จริง ๆ เวลาเราอยู่กับเพื่อนมันจะห้ามไม่ให้เสียงดังยากมากเลยนะ ผู้ใหญ่เองบางทีก็เสียงดังเวลาอยู่กับเพื่อนเหมือนกัน ดังนั้นถ้าคิดว่ามีอะไรที่เด็กอย่างเราควรรู้ ก็ควรบอกกันดี ๆ อย่าตั้งท่าแต่จะด่าว่าพ่อแม่เราไม่สั่งสอนเลย

 

 

เด็กสมัยนี้ติดโซเชียล ทำตัวเป็นเน็ตไอดอล

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ติดโซเชียลกันทั้งนั้นแหละ เมื่อวานยังสอนพ่อกับแม่เล่นไลน์ สร้างแอคเคาท์เฟซบุ๊กอยู่เลย สมัยนี้เด็กประถมบางคนก็เริ่มมีมือถือใช้กันแล้ว พวกเราเลยไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ที่จะบอกว่าเด็กติดโซเชียล เพราะแน่นอนว่าใคร ๆ ก็ติดกันหมดทั้งนั้นแหละตอนนี้ การใช้งานโซเชียลมีเดียระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ต่างหากที่เป็นประเด็นทำให้ผู้ใหญ่บางคนหงุดหงิดเด็ก เพราะได้ยินพ่อบอกว่าพ่อใช้ไลน์ในการทำงาน แต่เด็กอย่างเราจะใช้คุยสัพเพเหระ ออกแนวไร้สาระกับเพื่อน แสดงตัวตน ก็แหม่ พวกเรายังเรียนอยู่นี่คะ ซีเรียสได้มากที่สุดก็แก้โจทย์เลขผ่านไลน์นี่แหละ

 

อีกประเด็นคือ เด็กบางคนก็ถ่ายรูปไม่ค่อยมิดชิดลงโซเชียล กอดแฟนลงโซเชียล (อวด-ัว) หรือคลิปเต้นเซ็กซี่ในชุดนักเรียน อันนั้นเด็กบางคนก็ไม่ชอบหรอกนะ ดูกันขำ ๆ ส่วนอยากทำตามไหม ไม่ดีกว่า เด็กที่ดี ๆ จะไม่ชื่นชมคนทำตัวแรงและหยาบคายลงโซเชียล เอ๊ะ ! แต่อะไรที่ไม่ดีแบบนี้เด็กแบบเรา ๆ ก็เลียนแบบมาจากผู้ใหญ่หรือเปล่านะ จำมาจากในหนัง ในละครน้ำเน่าหลังข่าวบ้าง และในชีวิตจริงที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันด้วย

 

 

เด็กสมัยนี้แต่งหน้า แต่งตัวเกินวัย

นี่เป็นเรื่องดีนะคะ ที่เด็กสมัยนี้กระตือรือร้นใส่ใจเรื่องความสวยความงาม เพราะหลายคนก็เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่เด็ก เช่น รู้จักออกกำลังกายตั้งแต่อายุ 15, กินอาหารที่มีประโยชน์, บำรุงผิวหน้า ทาครีมกันแดด เพราะถ้าหากรู้จักดูแลตัวเองตั้งแต่เด็ก โตขึ้นก็จะมีสุขภาพที่ดีทั้งภายในและภายนอก

 

แต่มันก็จะมีเด็กอยู่ประเภทหนึ่งที่รีบสวยเกินวัยไปหน่อยคือ แต่งหน้าตั้งแต่มัธยมต้น ประโคมรองพื้น กรีดตา โบกหน้าด้วยแป้งผสมรองพื้นหนา ๆ แต่ทาผิดเบอร์ หรือแต่งตัวเกินวัย ตามเทรนด์แฟชั่นของผู้ใหญ่อายุ 25 ที่แต่งตัวโคตรโป๊ ทั้งที่ตัวเองอายุแค่ 14 เด็กวัยเดียวกันเห็นแล้วก็จะรู้สึกสงสารมากกว่าจะชมว่าสวย เด็กที่คิดได้เขาก็จะแต่งตัวตามวัย ตามความเหมาะสมไม่รีบร้อนอัพอายุตัวเองเพราะเราสวยตามวัยอยู่แล้วจ๊ะ 

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Magazine
  • 3 Followers
  • Follow