ช่วงปิดเทอมถือเป็นช่วงเวลาแสนสนุก ที่เด็ก ๆ จะได้ใช้เวลาพักผ่อน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ตนเองสนใจนอกห้องเรียน บางครอบครัวอาจมีการวางแผนที่จะพาลูก ๆ ไปเที่ยวหรือไปเข้าแคมป์เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ

แต่สำหรับบางครอบครัวที่ไม่มีเวลา แม่แหม่มมีคำแนะนำดี ๆ ที่อยากฝากพ่อแม่เอาไว้ในช่วงปิดเทอมค่ะ

อย่าให้ลูกใช้เวลาอยู่กับจอ

หลาย ๆ ครอบครัวคงกำลังเจอปัญหาลูกติดจอ ติดการ์ตูน ติดเกมส์ เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน กลับมาถึงบ้าน ก็จะไม่ยอมทำกิจกรรมอื่น ๆ นอกจากเล่นเกมส์หรือดูโทรทัศน์ ดังนั้นในช่วงปิดเทอม จึงเป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่ควรเฝ้าระวัง และไม่ปล่อยให้ลูกอยู่กับหน้าจอนานจนเกินไป พ่อแม่ควรจัดหากิจกรรม หรือชวนลูกพูดคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจลูก เพราะการเล่นเกมส์ที่มากเกินไป นอกจากจะไม่ช่วยพัฒนาสมอง ทำให้เสียสายตา และไม่สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกแล้ว การที่ลูกหมกตัวอยู่แต่ในห้อง จะทำให้ลูกสูญเสียโอกาสในการเรียนรู้ และขาดการปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัวอีกด้วย

เรียนพิเศษมากเกินไป

จริง ๆ แล้ว ช่วงเวลาปิดเทอมควรจะเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน และเพิ่มประสบการณ์ที่หลากหลายนอกห้องเรียนให้กับลูก แต่สำหรับบางบ้าน ช่วงเวลาปิดเทอม กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนพิเศษแบบเต็มที่ เด็กบางคนเรียนพิเศษทั้งวัน จนรู้สึกไม่ต่างจากเปิดเทอม ซึ่งจริง ๆ แล้วการเรียนพิเศษเป็นเรื่องที่ดี แต่การเรียนพิเศษอย่างเหมาะสม และหากิจกรรมสันทนาการอื่น ๆ เช่น การเรียนดนตรี ศิลปะ  มาช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่รอบด้าน จะเป็นการดีในระยะยาวต่อพัฒนาการและกระบวนการเรียนรู้ของลูกมากกว่า

อยู่บ้านตลอดเวลา

เนื่องจากความรู้ไม่ได้อยู่แค่ในห้องเรียน หรือในหนังสือ ดังนั้นหากพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นเด็กฉลาด และมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรทำ คือ การพาลูกออกไปรู้จักโลกภายนอกบ้าง พาลูกไปเข้าสังคม พาลูกไปเรียนรู้กฎระเบียบ และฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมที่แตกต่าง โดยเฉพาะในครอบครัวสมัยใหม่ที่แต่ละบ้านแยกกัน จนทำให้คนในครอบครัวไม่มีปฏิสัมพันธ์กันมากนัก การฝึกทักษะทางสังคมถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกเรียนรู้ และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

เพราะในวัยเด็ก กระบวนการเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถือเป็นช่วงเวลาทองของการเติมเต็มประสบการณ์ และเตรียมความพร้อมชีวิตในการเจริญเติบโตต่อไป ดังนั้นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรใส่ใจและให้ความสำคัญ ก็คือ การใช้ช่วงเวลานี้ร่วมกับลูกอย่างเต็มที่ ด้วยการพาลูกออกไปสร้างประสบการณ์ และใช้ชีวิต เพื่อให้ลูกได้เห็น ได้คิด ได้แก้ปัญหากับสิ่งใหม่ ๆ ที่พวกเขาพบเจอ และในวันหนึ่งที่ลูกเติบโตขึ้น จงเชื่อเถอะว่าลูกของเราจะมีความพร้อม และสามารถแก้ปัญหาในชีวิตได้ด้วยตนเอง