ในทางพัฒนาการของวัยรุ่นแล้ววัยนี้ถือเป็นวัยที่มีการสร้าง อัตลักษณ์ (Self-Identity)
อัตลักษณ์ คือ การเข้าถึงหรือได้มาซึ่งวุฒิภาวะทางด้านตัวตน บุคคลมีความรู้ความเข้าใจตัวตนของตนเอง เด็กรู้ว่าเขาทำ มี เป็นอะไรในปัจจุบัน และรู้ว่าเขาจะทำ จะมีและจะเป็นอะไรในอนาคต ใช้ชีวิตแบบใด อยู่ในสังคมอย่างไรจึงจะเหมาะสม อาจเรียกได้ว่าอัตลักษณ์คือ เอกลักษณ์ด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปนิสัย บุคลิกภาพ ความสามารถทางสติปัญญา การประกอบอาชีพ ทัศนคติ ความเชื่อ มาตรฐานและค่านิยมที่คนเรามี เช่น อัตลักษณ์ด้านความสามารถทางการเรียนก็คือ เรามองว่าเราเรียนดีวิชาอะไรบ้างหรือเราเก่งอะไร จะเห็นได้ว่าแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ด้านต่าง ๆ ที่แตกต่างกันและมีระดับที่แตกต่างไป และมันก็คือภาพรวมที่สร้างให้เกิดความโดดเด่นในแต่ละบุคคล
วัยรุ่นจึงต้องพยายามหาอัตลักษณ์ของตนเองที่เป็นที่ยอมรับของสังคม และในขณะเดียวกันเอกลักษณ์นั้นก็ทำให้วัยรุ่นรู้สึกว่าตนมีความโดดเด่นและแตกต่างไปจากคนอื่น ๆ อัตลักษณ์ที่เด่น ๆ ในช่วงวัยรุ่นเห็นจะไม่พ้นไปจากความเก่งด้านการเรียนและอาชีพที่จะทำในอนาคต
ทั้งนี้ในทางจิตวทยามีนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงด้านพัฒนาการด้านอัตลักษณ์ท่านหนึ่งคือ เจมส์ มาร์เซีย (James Marcia, 1980) ได้เสนอแนวคิดว่าการที่บุคคลจะพัฒนาอัตลักษณ์ได้จะต้องมีองค์ประกอบของการพัฒนาอัตลักษณ์ 2 องค์ประกอบด้วยกัน คือ การเข้าถึงหรือทำได้ (Commitment) และวิกฤติหรือปัญหา (Crisis)
เด็กวัยรุ่นเป็นช่วงที่ต้องผ่านประสบการณ์มากมาย บางอย่างพวกเขาทำได้สำเร็จ บางครั้งพวกเขาก็ล้มเหลว ความล้มเหลวทำให้พวกเขาเผชิญกับวิกฤติหรือปัญหาที่ทำให้เขาต้องมาทบทวนความสามารถ ศักยภาพ ความชอบ ความถนัดและความเป็นไปได้ของอนาคตที่เขาจะเป็น จากนั้นมาร์เซียจึงนำกระบวนการทั้งสองรูปแบบมาจัดเป็นสถานะทางอัตลักษณ์ได้ 4 สถานะ ได้แก่
สถานะทางอัตลักษณ์ที่บุคคลยังไม่เคยตั้งคำถามหรือเจอวิกฤติในตัวเอง และไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าตนจะป็นคนเช่นไร ทำอาชีพอะไร ชอบอะไรบ้าง บุคคลจะสับสนในอัตลักษณ์ของตนเอง
สถานะทางอัตลักษณ์ที่เกิดจากบุคคลเข้าถึงสิ่งที่ตนคิดว่าต้องการและความคิดในอุดมคติ แต่บุคคลไม่เคยผ่านการตั้งคำถามหรือผ่านวิกฤติอะไรบางอย่าง อาจทำให้วัยรุ่นยังไม่สามารถเข้าถึงตัวตนและอัตลักษณ์ที่แท้จริง
สถานะทางอัตลักษณ์ที่บุคคลกำลังเผชิญกับวิกฤติหรือการตั้งคำถาม บุคคลอยู่ในช่วงการสร้างทางเลือกที่อยากทำ มี และเป็น แต่เขายังไม่สามารถเลือกทางเลือกและเข้าถึงอัตลักษณ์ได้
สถานะทางอัตลักษณ์ที่บุคคลสามารถเข้าถึงอัตลักษณ์ของตนเองได้ ประสบความสำเร็จในการหาตัวตนของตนเอง บุคคลเคยเผชิญวิกฤติและตั้งคำถามเกี่ยวกับตนเอง พยายามข้ามผ่านวิกฤติต่าง ๆ ไปได้
เมื่อวิเคราะห์ระบบการเรียนการสอนของประเทศไทยก็จะพบว่า วัยรุ่นมีความจำเป็นที่ค่อนข้างเร่งด่วนในการสร้างอัตลักษณ์ทางการเรียนและอาชีพ เพราะเมื่อเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ต้องมานั่งเครียดกันแล้วว่าจะเรียนสายสามัญหรือสายอาชีพ ไม่พอต้องมาเลือกว่าจะเรียนสายวิทย์หรือสายศิลป์อีกด้วย
แต่เมื่อมองสภาพแห่งความเป็นจริงก็กลับพบว่าวัยรุ่นไทยหลายคนก็ยังหาตัวเองไม่พบและยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วตนต้องการอะไร ตนอยากเรียนอะไร อยากทำอาชีพอะไรในอนาคต เห็นได้จากตัวอย่างที่ยกมาในช่วงแรก ซึ่งจากการศึกษาในอดีตก็พบว่าเด็กวัยรุ่นอายุช่วงอายุ 12-18 ปีจะมีสถานะทางอัตลักษณ์เป็นแบบความสับสนด้านอัตลักษณ์ (Identity diffuse) และการยึดเอาอัตลักษณ์ (Foreclose) จนกว่าพวกเขาอายุ 21 ปีขึ้นไปจึงจะมีอัตลักษณ์เป็นแบบการเฟ้นหาอัตลักษณ์ (Moratorium) หรือ การได้มาซึ่งอัตลักษณ์ (Identity achievement)
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการค้นหาตัวเองและการหาอัตลักษณ์นั้นเป็นสิ่งที่ยากและต้องใช้เวลา มีการศึกษาวิจัยทางจิตวิทยาหลายงานที่พบว่าวัยรุ่นที่ไม่สามารถเข้าถึงอัตลักษณ์จะเกิดปัญหาทางพฤติกรรมและสุขภาพจิต วัยรุ่นบางคนมีอาการวิตกกังวลหรือมีอาการซึมเศร้า รู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า บางคนอาจมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหา เช่น วัยรุ่นบางคนอาจรู้สึกว่าตนเองเป็นแกะดำของสังคม ทำตัวแปลกแยกจางสังคม และอาจไปเข้าร่วมในกลุ่มที่เป็นเด็กที่ปัญหาทางพฤติกรรมเช่นเดียวกัน
เมื่อลูกต้องเลือกทางเดินของชีวิต Part 1
เมื่อลูกต้องเลือกทางเดินของชีวิต Part 3