สำหรับในปัจจุบัน “โทรศัพท์มือถือ” คงเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน หรือจะเรียกว่าเป็นปัจจัยที่ 5 เลยก็ว่าได้นะคะ แต่ก็เพราะโทรศัพท์นี่แหละค่ะที่ช่วยทำให้เราติดต่อสื่อสารกันได้ง่าย สามารถเข้าถึงข่าวสาร หรือได้ร่วมแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ถึงกันได้ง่ายมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยนะคะว่าทำไมโทรศัพท์มือถือจึงกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเรา
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากังวลใจและมองข้ามไม่ได้เลยก็คือ “แสงสีฟ้า” จากหน้าจอมือถือนั่นเอง หลาย ๆ คนอาจคิดไม่ถึงว่าแสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือมีผลทำให้ผิวของคุณเหี่ยวย่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ และหมองคล้ำได้แม้ไม่ถูกแดด วันนี้เราจึงรวบรวมอันตรายของแสงสีฟ้าที่มีต่อผิวมาฝากกันค่ะ
ขณะเล่นโทรศัพท์มือถือ คนส่วนมากมักก้มหน้าก้มตา ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าของคุณหย่อนคล้อยและมีเหนียงบริเวณใต้คาง นอกจากนี้ ขณะที่คุณกำลังจดจ่ออยู่กับการจ้องหน้าจอมือถือ คนส่วนมากมักจะทำหน้าย่น ขมวดคิ้ว ทำให้ตีนกาแวะมาถามหาคุณไวกว่าที่คิดไว้
จอมือถือจะมีคลื่นรังสี UVA1 UV400 และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดฝ้า กระ ผิวหน้ามองคล้ำ ผิวไม่แข็งแรง นอกจากนี้ คลื่นจากโทรศัพท์มือถือยังส่งผลต่อการสร้างเมลานินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาอีกด้วย
คุณรู้หรือไม่ว่า...โทรศัพท์มือถือของคุณถือเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียเลยก็ว่าได้ เพราะวัน ๆ นึง มือของคุณต้องสัมผัสอะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร บันได โต๊ะ เก้าอี้ หรือแม้แต่ตอนที่คุณเข้าห้องน้ำ คุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีเชื้อโรคหรือแบคทีเรียอะไรติดมาบ้าง จากนั้นคุณก็นำมือมาสัมผัสกับมือถือ จับหน้า รวมถึงเอาแนบหูเวลาคุยโทรศัพท์อีกต่างหาก นี่จึงเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวบนใบหน้านั่นเอง