ในใบชาส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นใบชาเขียวหรือใบชาดำนั้น ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคความจำเสื่อม โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง ในใบชาประกอบด้วยสารสำคัญ 2 ชนิดด้วยกัน คือ คาเฟอีน (Caffein) และแทนนิน (Tannin) สารทั้งสองชนิดนี้ในใบชา หากเราได้รับในปริมาณที่พอเหมาะจะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาระบบย่อยอาหารในร่างกาย อาการท้องเสีย และอาการคลื่นไส้ได้ แต่หากรับในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน
คาเฟอีน (Caffein) เป็นสารที่เรามักได้ยินว่าอยู่ในเครื่องดื่มประเภทกาแฟ คาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ร่างกายตื่นตัว กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้ หากเปรียบเทียบปริมาณคาเฟอีนในกาแฟและชานั้น ในกาแฟมีปริมาณคาเฟอีนมากกว่าในชา ชาหนึ่งถ้วยมีปริมาณคาเฟอีนเฉลี่ยประมาณ 15-60 มิลลิกรัม ส่วนกาแฟ 1 ถ้วย มีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 60-150 มิลลิกรัม
คาเฟอีนเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาระบบย่อยอาหารได้ หากมีการบริโภคมากเกินปริมาณที่เหมาะสม สารคาเฟอีนสามารถกระตุ้นการเกิดกรดในกระเพาะอาหาร สามารถทำให้เกิดอาการท้องเสียและการเกิดกรดไหลย้อนได้ นอกจากนั้นคาเฟอีนยังมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสวะ ดังนั้น สารคาเฟอีนจึงสามารถกำจัดน้ำในร่างกายผ่านการปัสสาวะและทำให้ร่างกายเกิดภาวะการขาดน้ำได้ ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
ส่วนสารอีกชนิดในใบชาที่ชื่อว่า แทนนิน (Tannin) เป็นสารที่ทำให้ชามีรสชาติขม หากดื่มชาในปริมาณที่เหมาะสม สารเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย แต่หากบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป สารแทนนินมีส่วนทำให้เกิดอาการท้องเสียและคลื่นไส้หรืออาเจียนได้
จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน “European Journal of Clinical Nutrition” ในเดือนมกราคม ปี 2017 ได้กล่าวว่า สารแทนนินเป็นสารที่ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกายลดลง แต่ถึงอย่างไรก็ตามสารแทนนินไม่ได้ทำให้ร่างกายเกิดอาการขาดธาตุเหล็กแต่อย่างใด แต่หากผู้ใดที่เป็นโรคที่มีความเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็ก เช่น โรคโลหิตจางควรหลีกเลี่ยงการดื่มชา
นอกจากนั้นสารแทนนิน (Tannin) ยังเป็นสารที่สามารถทำลายวิตามิน B1 ในอาหารได้ ดังนั้น จึงไม่ควรดื่มชาขณะรับประทานอาหารหรือหลังรับประทานอาหารทันที ควรรอให้อาหารย่อยเสียก่อนหลังจากรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง
เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการดื่มชาและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เราควรดื่มชาในปริมาณที่เหมาะสม จากรายงานของ MedlinePlus กล่าวว่า ปริมาณสารคาเฟอีนที่เหมาะสมและปลอดภัยคือปริมาณคาเฟอีน 200 – 300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งหากคิดเป็นแก้วชาขนาด 8 ออนซ์ ที่มีคาเฟอีนต่อแก้วปริมาณ 30 - 80 มิลลิกรัม นับเป็นปริมาณไม่เกิน 4 – 10 แก้วชาต่อวัน จึงจะเหมาะสมแก่ร่างกาย แต่หากบุคคลใดที่มีความเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็ก ควรดื่มชาหลังจากรับประทานอาหารแล้วประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ