ย้อนกลับไปวันที่ 20 ก.ค.1969 วันที่โลกต้องจารึกเมื่อมนุษย์ได้เหยียบลงบนพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรกและกลับมายังโลกอย่างปลอดภัย นักบินที่ร่วมภารกิจครั้งนั้น คือ นีล อาร์มสตรอง และ เอดวิน อัลดริน (ผู้บังคับการ) แต่ก่อนจะประสบความสำเร็จนี้พวกเขาต่างต้องล้มเหลวและสูญเสียหลายต่อหลายครั้ง โครงการอะพอลโลเป็นโครงการที่ 3 ต่อเนื่องจาก เมอร์คิวรี (โครงการแรกที่ทดสอบว่ามนุษย์สามารถเดินทางไปอวกาศได้) และ เจมินี (โครงการที่พิสูจน์ว่าสามารถส่งมนุษย์ไปลงดวงจันทร์และพากลับโลกได้อย่างปลอดภัย) โดยโครงการอพอลโลนั้นมีขึ้นตั้งแต่ 1-17 ด้วยกัน แต่จุดเริ่มต้นของอพอลโล 1 นั้นคือความสูญเสียที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์เมื่อลูกเรือทั้งสามคนได้แก่ แชฟฟี, ไวท์, กริสซัม ถูกไฟคลอกและเสียชีวิตระหว่างการทดลองยาน การสูญเสียนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนายาน ความปลอดภัย บุคลากร และ อุปกรณ์ต่างๆให้ดีมากขึ้น พวกเขาทั้งสามคือฮีโร่ที่ทำให้โครงการอพอลโล 11 กลายเป็นจริง
ชาวโรมันเรียกว่า Luna ส่วนชาวกรีกเรียกว่า Selene หรือ Artemis
ดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์ที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง เราเห็นดวงจันทร์ได้เพราะแสงสว่างจากพระอาทิตย์ ทำให้เราเห็นดวงจันทร์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งจันทร์เสี้ยว จันทร์เต็มดวง
โลกของเรามีขนาดใหญ่กว่าดวงจันทร์ถึง 4 เท่า ดวงจันทร์มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3,476 กิโลเมตร มีความหนาแน่น เฉลี่ย 3.34 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร
จากการสำรวจดวงจันทร์พบว่า บนดวงจันทร์ไม่มีน้ำ ไม่มีสิ่งมีชีวิต รวมถึงไม่มีชั้นบรรยากาศ
ดวงจันทร์มีมวลน้อยจึงมีแรงโน้มถ่วงน้อยจนไม่สามารถดึงดูดบรรยากาศไว้ได้ การที่ไม่มีชั้นบรรยากาศห่อหุ้มอยู่เลย ทำให้อุกกาบาตพุ่งชนพื้นผิวโดยอิสระไร้แรงเสียดทาน พื้นผิวของดวงจันทร์จึงปกคลุมไปด้วยฝุ่นผงและกรวดอุกกาบาต
จากภารกิจอะพอลโล 11 ของ นีล อาร์มสตรอง และ เอ็ดวิน อัลดริน มนุษย์ที่ขึ้นไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรก พวกเขานำหินบนดวงจันทร์กลับมาตรวจสอบพบว่ามีอายุถึง 3,000 – 4,600 ล้านปี ซึ่งเก่าแก่กว่าหินบนพื้นโลกอีก
ระยะทางเฉลี่ยจากโลก 384,400 กิโลเมตร
อุณหภูมิ -233°C 123°C
น้ำขึ้นน้ำลง เกิดจาก แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ส่งผลต่อน้ำในมหาสมุทร
ข้างขึ้นข้างแรม เกิดจาก การโคจรรอบโลกของดวงจันทร์
สุริยุปราคา เกิดจาก เงาของดวงจันทร์ที่ทอดมายังโลก
จันทรุปราคา เกิดจาก เงาของโลกทอดไปยังดวงจันทร์
ปัจจุบันมีการเปิดทัวร์อวกาศขึ้นแล้วเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ไร้น้ำหนัก โดยจะได้ชมดวงจันทร์แบบใกล้ชิด โดยกฎเกณฑ์ของผู้เดินทางนั้นจะต้องมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์และพร้อมกับการฝึกซ้อมก่อนไปเป็นเวลาครึ่งปี ราคาการชมดวงจันทร์โดยนั่งยานอวกาศไปรอบๆนั้นอยู่ที่ 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือเงินไทยอัพเดทตามค่าเงินตอนนี้ (เดือน กรกฎาคม 2019) อยู่ที่ 3,064,600,000 บาท โดยบริษัทที่เปิดธุรกิจท่องเที่ยวอวกาศปัจจุบันได้แก่ Virgin Galactic ( เจ้าของ Richard Branson) , SpaceX (เจ้าของ Elon Musk), Amazon (เจ้าของ Jeff Bezos) และ Nasa ที่กำลังจะเปิดในปีหน้า
การตีพิมพ์ผลการค้นพบดังกล่าวในวารสาร PNAS โดยนักธรณีศาสตร์ชาวอเมริกันระบุว่า การที่โลกมีจำนวนชั่วโมงในหนึ่งวันยาวนานขึ้นเป็นผลจากการที่ดวงจันทร์ค่อย ๆ เคลื่อนห่างออกไปจากโลกปีละ 3.82 เซนติเมตร ทำให้โลกหมุนช้าลงและมีช่วงเวลา 1 วันที่ยาวนานขึ้นโดยเฉลี่ย 1/75,000 วินาทีต่อปี ในยุคดึกดำบรรพ์ 1,400 ล้านปีก่อนเวลาหนึ่งวันในโลกของเรามีเพียงแค่ 18 ชั่วโมง 41 นาทีแต่ปัจจุบันโลกนั้นหมุนรอบตัวเองยาวนานกว่าเดิมทำให้เรามีเวลาหนึ่งวันถึง 24 ชั่วโมง (แต่ก็ยังไม่เคยพอสำหรับเราอยู่ดี ฮ่าๆ)
หากใครสนใจเกร็ดความรู้เกี่ยวกับดวงจันทร์และอยากรู้ประสบการณ์การไปเหยียบดวงจันทร์ครั้งแรกของมนุษย์ TrueVisions News อยากให้ทุกคนได้มาชมสารคดีจาก 3 ช่องชั้นนำของโลก National Geographic, BBC Earth และ Discovery Channel กับการรวบรวมสารคดี ภารกิจ Apollo 11 มาให้ชมกันหลากหลายรายการ
ติดตามข่าวสารความบันเทิง สารคดี ภาพยนตร์ซีรี่ส์