เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ในช่วง ค.ศ. 1891 “วิลเฮล์ม ฟอน ออสเทน (Wilhelm von Osten)” เป็นครูสอนคณิตศาสตร์ชาวเยอรมัน และเขาเป็นเจ้าของม้าสายพันธุ์ผสมออร์ลอฟ (Orlov Trotter) ที่ชื่อว่า “ฮานส์ (Hans)” อีกด้วย เขาได้ฝึกฮานส์ให้แก้โจทย์คณิตศาสตร์ เมื่อฝึกไปได้ระยะหนึ่ง ฮานส์สามารถนับเลขและคำนวณเลขบวก ลบ คูณ และหารเบื้องต้นได้ ซึ่งมันตอบโดยใช้การตบเท้าบอกคำตอบออกมาเป็นจำนวนที่ถูกต้อง ส่วนการตั้งคำถาม จะเป็นคำถามที่เป็นคำพูดหรือเป็นตัวหนังสือก็ได้ แน่นอนว่าได้สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะม้าไม่เพียงแต่แก้โจทย์ปัญหาได้ แต่ยังสามารถอ่านโจทย์ได้อีกด้วย
จากนั้นออสเทนพาฮานส์ออกสู่สายตาสาธารณะชนให้ได้เห็นความสามารถของมัน ซึ่งมันสามารถตอบคำถามได้ถูกต้องแทบทุกครั้ง แน่นอนว่ามันได้สร้างความประทับใจให้ผู้คนที่พบเห็นเป็นอย่างมากจนหลายคนได้เรียกฮานส์ว่า ฮานส์เจ้าม้าแสนรู้ (Clever Hans) ไม่นานฮานส์ก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แล้วเรื่องราวของฮานส์เจ้าม้าแสนรู้ก็ได้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ New York Time
ความสามารถของฮานส์ได้สร้างความสงสัยให้กับคณะกรรมการการศึกษาของเยอรมนี จนมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการชุดพิเศษ “Hans Commission” ขึ้นมา เพื่อตรวจสอบว่าความสามารถของฮานส์เป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงกลการแสดง
Hans Commission เป็นทีมสืบสวนที่ประกอบด้วยผู้คนจากหลากหลายอาชีพ ทั้งผู้เชี่ยวชาญเรื่องม้า นักคณิตศาสตร์ เจ้าของละครสัตว์ นักจิตวิทยา และคาร์ล สตัมฟ์ (Carl Stumpf) ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านปรัชญาและเป็นสมาชิกของสถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซีย หลังจากใช้เวลาทดสอบฮานส์อยู่นาน ก็ได้ผลสรุปว่าความสามารถของฮานส์นั้นไม่ได้หลอกลวง ถึงขั้นรับรองว่าฮานส์เป็นม้าที่มีพรสวรรค์และฉลาดจริง ๆ ฮานส์ก็ยิ่งเป็นที่รู้จักและโด่งดังจนผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต้องมาดูการคำนวณของมันให้เห็นกับตา
อย่างไรก็ตาม นักจิตวิทยาชื่อ ออสการ์ ฟุงส์ก (Oskar Pfungst) ยังสงสัยในความสามารถของฮานส์ จึงได้ตั้งทีมนักวิทยาศาสตร์ 13 คน เพื่อทำการทดสอบฮานส์อีกครั้ง ทีมของเขาได้ออกแบบการทดสอบอย่างละเอียดโดยจำกัดสถานการณ์และสภาพแวดล้อม ดังนี้
1. ในการตั้งคำถามมีการแยกม้าออกจากคนอื่น ๆ ทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการส่งสัญญาณ
2. ใช้คำถามจำนวนมากเพื่อป้องกันการมั่วถูก
3. บางคำถามเป็นคำถามที่ผู้ถามไม่รู้คำตอบ
4. มีการเปลี่ยนตัวคนถาม
5. การทดสอบบางครั้งมีการปิดตาม้าไว้
6. มีการยืนถามคำถามในระยะที่แตกต่างกัน
หลังการทดสอบพบว่า ยิ่งยืนห่างจากฮานส์มากเท่าไร การตอบถูกยิ่งน้อยลง หากถามคำถามที่ผู้ถามไม่รู้คำตอบ ฮานส์ก็ไม่สามารถตอบได้ นั่นหมายความว่าฮานส์สามารถตอบคำถามถูกได้เฉพาะเวลาที่มองเห็นผู้ถามและผู้ถามรู้คำตอบ จึงได้ข้อสรุปว่าม้าสามารถตอบคำถามได้ เพราะอ่านพฤติกรรมและสีหน้าท่าทางของผู้ถาม โดยที่ผู้ถามไม่รู้ตัว
ทุกครั้งที่ฮานส์เคาะกีบเท้าเพื่อตอบคำถาม ผู้ถามจะแสดงสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียดและมีอัตราการหายใจถี่ เสมือนว่าตื่นเต้นที่ลุ้นคำตอบของฮานส์ แต่เมื่อฮานส์เคาะถึงคำตอบที่ถูกต้องแล้ว อาการเหล่านี้ของผู้ถามก็หายไปนั่นเอง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับผู้ถามที่ไม่รู้คำตอบ เพื่อพิสูจน์ปฏิกิริยาเหล่านี้ ฟุงส์กจึงได้ลองเป็นฮานส์ดูและพยายามตอบคำถามตามภาษากายด้วยการสังเกตปฏิกิริยาของผู้ถาม แน่นอนจ้า! เขาประสบความสำเร็จกับการทดลองครั้งนี้ และเรียกการแสดงพฤติกรรมที่คล้ายเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างออกมาโดยไม่รู้ตัวหรือจิตใต้สำนึกว่า “Clever Hans effect” หรือ “Ideomotor cueing” ถึงแม้การทดลองจะพบว่า จริง ๆ แล้วนั้นฮานส์จะคิดเลขไม่ได้ แต่มันก็ยังเป็นม้าที่ฉลาดมากอยู่ดี