Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ อินไปกับประวัติศาสตร์ด้วยแสงสีสุดไฮเทค

Posted By ไกด์เตยหอม | 27 มิ.ย. 62
10,284 Views

  Favorite

เรียนรู้อดีต ตระหนักถึงปัจจุบัน เพื่อมุ่งสู่อนาคตในวันข้างหน้า มาสัมผัสกับนิทรรศการอันทันสมัยที่จะพาเราเดินทางไปเพลิดเพลินกับแง่มุมอันงดงามของกรุงรัตนโกสินทร์ผ่านช่วงต่าง ๆ ของกาลเวลา

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2480 ตั้งอยู่ถัดจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ซึ่งอยู่ตรงประตูเมืองเดิม เสมือนเป็นจุดเริ่มต้นสู่เขตเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งเป็นเขตราชธานีในอดีต หลังหมดสัญญาเช่าลง สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จึงนำมาสร้างเป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องราว ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุครัตนโกสินทร์ ใครไป วัดราชนัดดาฯ หรือ วัดเทพธิดาราม แล้วก็แวะมาชมได้นะคะ เปิดตั้งแต่ 9.00 – 17.00 น. เว้นวันจันทร์ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เมื่อถึงทางเข้าจะเห็นป้ายไฟแสดงชื่อนิทรรศการอยู่ตรงหน้าจุดจำหน่ายบัตรและจุดประชาสัมพันธ์ ซึ่งหากเราไปยืนใกล้ ๆ แล้วโบกไม้โบกมือหน้าป้ายในช่วงเช้า จะมีนกบินขึ้นมาต้อนรับบนจอ ส่วนหลังเที่ยงไปจะมีพลุจุดต้อนรับบนจอด้วยค่ะ ได้สัมผัสกับเทคโนโลยี Interactive ที่ให้เรามีส่วนร่วมกันตั้งแต่จุดสตาร์ทเลยทีเดียว

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

สำหรับค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท (ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ) ส่วนเด็ก นักเรียน นักศึกษา (ในเครื่องแบบ/แสดงบัตร) พระภิกษุ สามเณร และนักบวช ผู้สูงอายุ (60 ปี+) และผู้พิการเข้าชมฟรี และช่วงนี้มีโปรโมชั่นถึง 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ใครมี Rabbit Card ของ BTS รับสิทธิ์เข้าชม+เข้าห้องสมุดฟรี 1 ใบ/ท่าน ลูกค้า TRUE ก็สามารถรับสิทธิ์ซื้อบัตรเข้าชม 1 แถม 1 ได้โดยแสดง SMS รับสิทธิ์ได้ถึง 31 มีนาคม พ.ศ. 2564 เลยนะคะ โปรโมชั่นอื่น ๆ ดูได้จากในเว็บไซต์ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เลยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

หากใครมีสัมภาระใบใหญ่ ๆ มาด้วยก็สามารถฝากไว้ที่ล็อกเกอร์หน้าห้องน้ำ (หลังป้ายไฟ) ได้ฟรีด้วยนะคะ และสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการก็สามารถยืมรถเข็นสำหรับชมนิทรรศการได้โดยติดต่อที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เนื่องจากนิทรรศการมีการผสมผสานการจัดแสดงด้วยเทคโนโลยีสื่อผสมเสมือนจริง 4 มิติ สื่อ Multi-touch และ Multimedia Animation รูปแบบต่าง ๆ มากมาย จึงต้องแบ่งการเข้าชมเป็นรอบ ๆ รอบละ 2 ชั่วโมง ทุก 20 นาทีค่ะ รอบแรกเริ่ม 9.20 น. รอบสุดท้าย 15.00 น. ตอนแลกรับ/ซื้อบัตรเข้าชม เราสามารถเลือกเส้นทางและรอบที่จะเข้าชมได้ค่ะ เอาแบบมีพักกลางวันได้ด้วยนะคะ จากนั้นก็มานั่งรอเข้าชมที่โซฟานุ่ม ๆ ตรงโถงทางเข้าได้ ซึ่งก็จะมีข้อมูลเบื้องต้นให้จิ้มดูไปพลาง ๆ ก่อนด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ช่วงเช้านี้เลือกไปชมเส้นทางที่ 1 กันก่อน ก็จะมีเจ้าหน้าที่นำมายังจุดแรกคือ อุโมงค์เวลา จัดแสดงเหตุการณ์สำคัญ ๆ ตั้งแต่เมื่อครั้งสร้างกรุงรัตนโกสินทร์โดยมีภาพถ่าย แอนิเมชั่น และสิ่งของที่เกี่ยวข้องให้ชมกันค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ก็จะเจอภาพคืนประวัติศาสตร์แห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของล้นเกล้าฯ ร.9 ที่วาดโดยคุณจอมพล พัวทวี ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษา ในภาพมีอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี และอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินดังแห่งเมืองเหนือด้วย

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นก็เข้าไปชมห้องดื่มด่ำย่านชุมชนกัน ซึ่งบนพื้นห้องจะเป็นแผนที่ แล้วก็มีจุดชุมชนต่าง ๆ พอไปเหยียบก็จะมีแสงเป็นรูปที่เกี่ยวข้องกับชุมชนนั้น ๆ ฉายนำไปสู่นิทรรศการที่เราจะใส่หูฟังชมวิดีทัศน์เล่าเรื่องราวประวัติ และสินค้าชื่อดังในแต่ละแห่งได้ด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นก็เป็นห้องรัตนโกสินทร์เรืองโรจน์ ชมภาพยนตร์ 4 มิติ เล่าเรื่องราวกำเนิดกรุงรัตนโกสินทร์ ที่มาของกรุงเทพมหานคร พระอัจฉริยภาพของล้นเกล้า ร.1 องค์ปฐมกษัตริย์ผู้ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ห้องถัดมาคือ “ห้องเกียรติยศแผ่นดินสยาม” ซึ่งจะได้เรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมไทยอันงดงามภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เราเรียกกันว่าวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง แบบไม่ต้องกลัวร้อนกลัวฝน แอร์เย็นฉ่ำกันค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ภาพล่างนี้เป็นแบบจำลองวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

นอกจากนี้ยังมีการให้ความรู้เกี่ยวกับงานช่างศิลป์ต่าง ๆ ที่พบเห็นได้ที่นั่น ซึ่งล้วนเป็นประณีตศิลป์อันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นงานประดับมุก งานกระเบื้องเคลือบสี ซึ่งเป็นกลวิธีอันชาญฉลาดในการนำเศษกระเบื้องถ้วยชามที่แตกหักระหว่างการขนส่งทางเรือ มาสร้างเป็นชิ้นงานโดดเด่นมีเอกลักษณ์ หรืองานปูนปั้นปิดทองประดับกระจก ซึ่งสืบสานกันมาตั้งแต่สมัยอยุธยา

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ภาพล่างเป็นแบบจำลองบุษบกประดิษฐานพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่องค์จริงนั้นประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระแก้วค่ะ ซึ่งในจุดนี้จะมีการใช้เทคโนโลยีแสงสีเสียงจำลองพระแก้วมรกตในเครื่องทรงทั้ง 3 ฤดู พร้อมแอนิเมชั่นเล่าเรื่องราวตำนานของพระแก้วมรกตด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ใครที่เคยไปชม วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง สถานที่จริงมาแล้วก็จะรู้กันดีเลยค่ะว่าเขตพระราชฐานชั้นในนั้น จริง ๆ แล้วผู้ชายเข้าไปไม่ได้ แต่ที่นี่ได้จำลองมาให้ผู้ชายก็ลอดประตูย่ำค่ำเข้าไปชมเรื่องราวข้างในกันได้ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

หลังประตูจะมีโขลน ซึ่งก็เหมือนตำรวจหญิงคอยรักษาความปลอดภัย และเป็นระเบียบเรียบร้อยในเขตพระราชฐานชั้นใน ซึ่งเป็นที่พำนักของเจ้านายสตรี นางใน และคุณข้าหลวงต่าง ๆ เป็นที่ถ่ายทอดสืบสานงานช่างฝีมือชั้นยอดของบรรดาสาว ๆ มาแต่ยุคโบราณ ไม่ว่าจะเรื่องการเย็บปักถักร้อย ดูแลเครื่องนุ่งห่ม การจับคู่สีผ้านุ่งแบบชาววัง ฯลฯ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

งานดอกไม้สดดอกไม้แห้ง น้ำอบน้ำปรุง บุหงา และเครื่องหอมต่าง ๆ อย่างในภาพล่าง รวมไปถึงการแกะสลักและทำอาหารชาววังเลิศรส ที่ปัจจุบันนี้ สตรีผู้สนใจก็ยังสามารถไปสมัครสอบเข้าเรียนได้ที่วิทยาลัยในวังหญิงค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ห้องถัดมาคือ “ห้องเรืองนามมหรสพศิลป์” เป็นโถงวงกลมจำลองบรรยากาศและเล่าความเป็นมาเกี่ยวกับมหรสพประเภทต่าง ๆ ของไทย ไม่ว่าจะเป็นโขน ละคร หรือการละเล่นอย่างโมงครุ่ม กุลาตีไม้ ฯลฯ แบบ 360 องศา

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นก็จะเดินเข้าสู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นนิทรรศการเล่าวิวัฒนาการของมหรสพ และให้ข้อมูลแยกย่อยเกี่ยวกับมหรสพแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นหนังใหญ่ โขน หุ่นกระบอก ฯลฯ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ตรงจอในภาพล่างนี้ คือมีโรงหุ่นเล็ก ๆ ให้ไปลองเชิดหุ่นให้เพื่อนถ่ายรูปได้ด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นก็ออกมาเจอร้านถ่ายภาพฉายาราชดำเนิน ซึ่งจำลองการถ่ายรูปด้วยกล้องแบบโบราณ ตรงนี้จะทำหน้ายิ้ม หรือหน้าตลก ๆ ได้ตามใจชอบเลยค่ะ แล้วเดี๋ยวจะได้เห็นรูปของเราในห้องต่อไป

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถ่ายเสร็จก็เข้ามาที่ “ห้องเยี่ยมยลถิ่นกรุง” ชมข้อมูลที่เที่ยว แหล่งช้อป ชิม ชิว ต่าง ๆ บริเวณรอบ ๆ เกาะรัตนโกสินทร์

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เสร็จแล้วก็มาที่จอกลาง ทีนี้เจ้าหน้าที่จะบอกให้เตรียมมือถือมาถ่ายรูปค่ะ เพราะเราจะเห็นภาพใบหน้าเราเองกับผู้ชมท่านอื่น ๆ กลายมาเป็นตัวละครในการ์ตูนแอนิเมชั่นพาเที่ยวที่ ๆ ต่าง ๆ ในย่านนี้ด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นก็จะได้ขึ้นไปถ่ายรูปสวย ๆ ที่ “รัตนโกสินทร์สกายวิว” มุมกว้างและสวยมาก ๆ เลยค่ะนี้ มาดูด้วยตาจะงามกว่ารูปที่ถ่ายให้ดูมาก ๆ ค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

หากเมื่อยก็นั่งพักสักแปบได้ชิว ๆ ชมวิวเพลิน ๆ กันได้ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ก็มาตามไปชมจุดถัดไปค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ห้องถัดมาคือห้องลือระบิลพระราชพิธี ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชพิธีต่าง ๆ ตลอดยุครัตนโกสินทร์

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ภาพบนเป็นประมวลภาพถ่ายงานพระราชพิธีต่าง ๆ มากมายในรัชกาลที่ 9 ส่วนภาพล่างเป็นอาหารและเครื่องดื่มที่เสี่ยงทายพระโคกินเลี้ยงในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวพระราชพิธีอื่น ๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นพระราชพิธี 12 เดือน พระราชพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช การจำลองเรือพระราชพิธีแบบ Hologram Magic Vision พระราชพิธีรับและสมโภชขึ้นระวางช้างสำคัญในภาพล่างนี้

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาจะเป็น "ห้องสง่าศรีสถาปัตยกรรม" ไล่เรียงรูปแบบสถาปัตกรรมยอดฮิตตั้งแต่ช่วงต้นกรุงฯ และมีเปลี่ยนแปลงมาเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ตั้งแต่วังเจ้านายในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งตรงนี้ก็จะมีคลิปให้ชมชาววังเล่าเรื่องวังยุคต่าง ๆ ด้วย

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ต่อมาก็จะเป็นเกมสร้างวัดแบบ Multi-touch ให้ได้เรียนรู้เรื่องการแบ่งเขตในวัดเป็นเขตพุทธาวาสและเขตสังฆาวาส เป็นต้น

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นก็มีการจำลองวิถีชีวิตซึ่งในสมัยก่อนเด็กผู้ชายก็จะเรียนหนังสือกันในวัด และประชาชนเองก็เข้าวัดไปหาความรู้ได้ อย่างที่ล้นเกล้าฯ ร.3 โปรดฯ ให้จารึกเรื่องราวความรู้ศาตร์ต่าง ๆ มากมายลงบนแผ่นหินในศาลาราย และรอบพระอุโบสถวัดโพ เพื่อให้ทุกคนเข้ามาอ่านกันได้

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ต่อมาเป็นโซนบ้านเรือนไทย ซึ่งข้างในมีการแสดงแอนิเมชั่นภาพบ้านเรือนแบบต่าง ๆ ตลอดยุครัตนโกสินทร์ โดยให้เราเลือกวิธีการเดินทาง เช่น พายเรือ ก็จะมีไม้พายให้เราพายไปแล้วแอนิเมชั่นก็จะโลดแล่นมาบนจอ มีเชือกบังคับม้า ก็จะเป็นการท่องกรุงแบบขี่ม้าชมเมือง หรือพวงมาลัยรถยนต์ก็จะเห็นการขับรถตระเวนกรุงค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ชมเสร็จแล้วก็ได้เวลาพักเที่ยง เดินออกมาเลี้ยวซ้ายผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตระหง่านกลางถนนราชดำเนิน แล้วก็เลี้ยวซ้ายอีกทีสู่ถนนดินสอ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เที่ยงนี้เรามากินข้าวกันที่ครัวอัปษร ร้านอาหารไทยชื่อดัง ที่มีต้นตำรับเป็นแม่ครัวคนเก่งที่เคยทำเครื่องเสวยถวายงานสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) มาก่อน และได้รับการยอมรับจากสื่อต่าง ๆ มากมาย

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ที่นี่เป็น สาขา 2 เปิดทุกวันเวลา 10.30 – 20.30 น. (สั่งก่อนครัวปิด 20.00 น.) มีอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูยอดฮิตอย่างปูผัดพริกเหลือง แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ฯลฯ กดดูกันเองจากในเว็บไซต์ทางร้านได้เลยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จริง ๆ เคยมาหลายครั้งแล้ว ทั้งมากับครอบครัว พาแขกมา และมารับประทานเองอย่างในวันนี้ เลือกเมนูเป็นอาหารจานเดียวง่าย ๆ อย่างข้าวผัดผักกระเฉดหมู 80 บาท แล้วก็กล้วยไข่บวดชี 30 บาทค่ะ อร่อยเหมือนเคยและอิ่มแปล้กันเลยทีเดียว

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เสร็จแล้วก็เดินกลับไปชมนิทรรศการต่อช่วงบ่ายในเส้นทางที่ 2 ซึ่งมี 2 ห้องใหญ่ ๆ เริ่มจากห้องแรกของรอบนี้คือ “ห้องเรืองรุ่งวิถีไทย”

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

โซนแรกจะเป็นแบบจำลองวิถีชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายของชาวไทยในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าหน้าที่เองก็จะใช้คำลงท้ายแบบยุคต้นกรุงว่า “ขอรับ” และ “เจ้าค่ะ” ด้วย

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นก็นั่งเรือ ล่องไปตามแม่น้ำจำลองพลางฟังเพลงฉ่อยให้ข้อมูลประกอบแอนิเมชั่นไปด้วย สนุกดีทีเดียวค่ะ พอขึ้นจากเรือก็จะเป็นรถรางแล้วก็เข้าสู่ยุคสมัยต่อมาที่เริ่มมีห้องแถว มีห้างแบบฝรั่ง มีร้านถ่ายรูป ร้านยา ไปรษณีย์ ธนาคาร ฯลฯ ตรงโซนนี้พอเจ้าหน้าที่บรรยายเสร็จเราก็มาหมุน มาถ่ายรูปกับ เครื่องเล่นแผ่นเสียง หรือมาโยกคันบดยาได้ด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม
ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

หรือจะสวมหมวกแอ๊บเป็นบุรุษไปษณีย์ยุคแรก ๆ แบบในภาพล่างก็ได้นะคะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นก็ผ่านอุโมงค์หลบภัยจำลองสมัยสงครามโลก เข้าสู่ยุคถัดมาในสมัยที่คุณป้าคุณลุงยังเป็นหนุ่มเป็นสาว ในโซนนี้มีร้านตัดผม ที่เราไปกดปุ่มเลือกทรงผมยอดฮิตในยุคนั้น ร้านตัดเสื้อที่ไปกดปุ่มลองชุดในยุคนั้น หรือจะมาถ่ายแบบลงปกนิตยาสารที่ร้านขายหนังสือก็ได้ โดยรูปของเราจะมาปรากฎที่แผงหนังสือหน้าร้านเลยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นก็เข้าสู่ห้องชมภาพยนตร์ แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงอันฉับไวเมื่อกรุงเทพฯ กำลังมุ่งไปสู่วันข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วต่อรถไฟฟ้า BTS พร้อมกับชมเรื่องราวของบรรพชนและบุคคลที่สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้สังคม เพื่อนำไปสู่การตระหนักในความเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเมืองอย่างสมบูรณ์

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

จากนั้นเราจะไปชมในห้อง “ดวงใจปวงประชา” ที่เริ่มด้วยฉากที่เราจะเข้ามาอยู่ในบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามวัดอรุณฯ แล้วก็ตามคุณยายและหลานชายไปเรียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ด้วยกัน

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

อย่างในภาพล่างนี้เล่าเรื่องราวพระราชกรณียกิจของล้นเกล้า ร.1 – ร.3 โดยฉายบนฉากกำแพงเมือง เก๋งจีน และบนใบเรือสำเภา ให้ทุกคนได้อินไปกับเรื่องราวในยุคแรก ๆ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันประเทศ วรรณกรรม และการค้าขาย

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ถัดมาในสมัย ร.4 – ร.5 ก็จะมีการพัฒนาวิทยาการ สาธารณูปโภคสำคัญ ๆ ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการต่างประเทศ เพื่อให้สยามในเวลานั้น มีความเจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

เรื่องราวการพัฒนาการศึกษา ที่ล้นเกล้าฯ ร.6 ทรงให้สร้างมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศไทย คือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และยังทรงตั้งวรรณคดีสโมสร พระราชนิพนธ์วรรณกรรม ทรงแปลวรรณกรรมต่าง ๆ และส่งเสริมให้ประชาชนรู้หนังสือมากขึ้น ให้วัฒนธรรมเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาชาติ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ทรงสร้างเมืองดุสิตธานี ปูรากฐานประชาธิปไตย ซึ่งต่อมาล้นเกล้าฯ ร.7 ก็ทรงสานต่อพระราชปณิธานนี้ ทั้งยังโปรดฯ ให้สร้างและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคสำคัญไม่หยุดหย่อน เช่น สะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นต้น

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

กระทั่งในรัชสมัยของล้นเกล้าฯ ร.8 และ ร.9 ก็ทรงงานเพื่อปวงชนชาวไทยทั้งประเทศเสมอมา โดยในส่วนนี้พอเรื่องราวพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับฝนหลวงเริ่มขึ้นก็จะมีน้ำเหมือนน้ำฝนตกโปรยปรายลงมาตรงหน้าจริง ๆ ด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

มาถึงทางออกก็จะมีไทม์ไลน์ ไล่เรียงเรื่องราวตลอดทั้ง 9 รัชกาลที่ผ่านมาบนผนังให้ได้ชมกัน ซึ่งในส่วนของนิทรรศการบางห้องที่ไม่ใช่การฉายหรือกิจกรรมที่ต้องทำเป็นรอบนั้น หากอ่านไม่ทัน หรือถ่ายรูปไม่ทัน ก็สามารถขอกลับขึ้นมาดูอีกได้นะคะ โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ได้ บัตรใช้ได้ทั้งวันค่ะ จะมีเพียงส่วนของภาพยนตร์และกิจกรรมกลุ่มที่ต้องเป็นตามรอบเพื่อให้ทุกคนได้ชมและได้ร่วมอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่แออัดเกินไปค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

พอลงมาข้างล่างก็จะมีตู้ประเมินและแสดงความคิดเห็นในการรับชม ซึ่งพอทำแบบประเมินเสร็จเราก็จะได้รูปที่ระลึกด้วยค่ะ เป็นระบบดิจิทัล paperless นะคะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมพกมือถือมาด้วยเชียวค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

ก่อนกลับหากยังสามารถแวะนั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุดได้ด้วย โดยผู้ที่มีบัตรเข้าชมนิทรรศการสามารถนำมาใช้เข้าห้องสมุดได้ฟรีค่ะ มีล็อกเกอร์หน้าห้องสมุดแยกส่วนกับโซนนิทรรศการให้บริการฟรีเหมือนกันค่ะ แต่ต้องใช้เหรียญ 10 บาทหยอดไว้ประกันกุญแจ เมื่อนำกุญแจมาเปิดก็จะได้เหรียญคืนค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกและห้องพยาบาล

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

รวมถึงคาเฟ่เล็ก ๆ จำหน่ายเครื่องดื่มและของว่างให้เลือกซื้อรับประทานพักผ่อนกันก่อนเดินทางไปเที่ยวยังจุดอื่น ๆ หรือเดินทางกลับบ้านได้ด้วยค่ะ

 

ภาพ : ไกด์เตยหอม

 

 “Amazing ไทยเท่” ที่เที่ยวเก๋ ๆ ใกล้ตัว อย่าลืมมาชื่นชมกันนะคะ

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • ไกด์เตยหอม
  • 3 Followers
  • Follow