วิตามินและแร่ธาตุเป็นสารอาหารจำเป็นที่ร่างกายขาดไม่ได้ เพียงแต่ร่างกายต้องการวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณมากน้อยตามความจำเป็นเท่านั้น หากร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เหมาะสม ระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ และลดโอกาสที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ที่เนื่องมาจากการขาดวิตามินและแร่ธาตุได้ แต่ถ้าหากเรารับประทานวิตามินและแร่ธาตุเสริมในปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย มันจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี เนื่องจากตับและไตจะทำงานมากกว่าปกติ เพราะต้องขับวิตามินและแร่ธาตุส่วนเกินออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังอาจเกิดอาการข้างเคียงบางอย่าง เช่น การได้รับวิตามินซีที่มากเกินไปอาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย หรือการได้รับวิตามินดีมากเกินไปอาจทำให้มีอาการอ่อนแรง ปัสสาวะบ่อย เป็นต้น อีกทั้งวิตามินบางตัวสามารถสะสมในร่างกายและอาจทำให้เกิดภาวะเป็นพิษสะสมได้
วิตามินสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) วิตามินที่ละลายในน้ำ 2) วิตามินที่ละลายในไขมัน เพียงแต่วิตามินที่ละลายในน้ำนั้น หากได้รับในปริมาณมากเกินความจำเป็น ร่างกายก็สามารถขับออกได้ทางไต เนื่องจากร่างกายส่วนใหญ่ของมนุษย์ประกอบไปด้วยน้ำประมาณ 75 % ดังนั้น วิตามินประเภทที่สามารถละลายในน้ำได้ จึงละลายรวมกับน้ำภายในร่างกายและของเหลวทั้งหมดจะถูกนำไปกรองที่ไต เพื่อขับสารที่ไม่จำเป็นหรือเกินความต้องการออก วิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินบี
ส่วนวิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค วิตามินประเภทนี้ไม่สามารถละลายในน้ำได้ แต่สามารถละลายได้ดีในไขมัน ฉะนั้นร่างกายของเราที่ชั้นใต้ผิวหนังมีไขมันเป็นส่วนประกอบ วิตามินประเภทนี้จึงถูกนำมาสะสมไว้ในชั้นใต้ผิวหนังทั่วร่างกายของเรา เนื่องจากไม่สามารถละลายในน้ำได้ การขับออกผ่านทางปัสสาวะจึงไม่สามารถทำได้นั่นเอง ร่างกายจึงนำวิตามินประเภทนี้ไปสะสมไว้แทน ซึ่งสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะมีประโยชน์หรือไม่ หากมีการสะสมเป็นปริมาณมากในร่างกายเกินความจำเป็นที่ร่างกายจะนำใช้ มันอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะสั้นหรือระยะยาวได้