ผู้หญิงเมื่อมีอายุมากขึ้นตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปก็เริ่มที่จะเสี่ยงต่อการตรวจพบโรคเนื้องอกมดลูก ซีสต์รังไข่ และเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โดยโรคที่พบมากเป็นอันดับแรกคือ เนื้องอกมดลูก และที่น่าสนใจคือในผู้หญิง 10 คนจะพบผู้หญิงที่เป็นโรคภายใน 3 ถึง 4 คน โดย 3 ถึง 4 คนนี้มี 30 เปอร์เซ็นต์ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษา เพราะฉะนั้นควรหมั่นไปตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ ปี แต่ก่อนการตรวจภายในอาจจะมีวิธีที่ยุ่งยากและซับซ้อน ผิดกับเดี๋ยวนี้ที่การตรวจภายในมีการนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วย อย่างการส่องกล้องเป็นต้น เพื่อตรวจหาเนื้องอกจากปากมดลูก และทำการรักษาโดยการผ่าตัดส่องกล้องมดลูก วิธีนี้จะทำให้แพทย์มองเห็นบริเวณที่ต้องการผ่าตัดได้ชัดเจน ทำให้การผ่าตัดมีความเที่ยงตรงและแม่นยำ ไม่กระทบกับอวัยวะในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องเหมือนกับการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ซึ่งการผ่าตัดส่องกล้องมดลูกก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่จะมีอะไรบ้างที่เป็นข้อดี และมีอะไรบ้างที่เป็นข้อเสีย ว่าแล้วเราก็มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
ข้อดี – ข้อเสีย ของการผ่าตัดส่องกล้องมดลูก
ข้อดีในการผ่าตัดส่องกล้องมดลูก
ข้อเสียในการผ่าตัดส่องกล้องมดลูก
หากตรวจพบเนื่องอกและได้รับการผ่าตัดส่องกล้องมดลูก สิ่งที่ต้องทำหลังการผ่าตัด คือ รับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ ให้ดื่มน้ำมากๆ และปัสสาวะบ่อยๆ โดยไม่ควรกลั้นปัสสาวะ ควรที่จะเปลี่ยนอิริยาบถช้าๆ ลุกเดินบ่อยๆ เพื่อลดโอกาสการเกิดพังผืดในช่องท้องจากแผลผ่าตัด ต้องคอยสังเกตตัวเองว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น เจ็บหรือปวดแผลมากขึ้นเรื่อยๆ มีไข้ มีเลือด หนอง หรือของเหลวไหลออกมา เกิดการบวมแดงตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ให้แจ้งแพทย์หรือพยาบาลทันที และข้อสุดท้ายที่สำคัญมาก ๆ คือ ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด กินยา และเข้ารับการตรวจตามนัดค่ะ