จากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ประกอบกับ โลกเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล ประเทศไทยจึงต้องเร่งพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการภาคธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในระดับสากล ดังนั้นการพัฒนาบุคลากรทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ ให้มีศักยภาพ และวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจประเทศไทย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาคเอเชีย

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงจัดทำ หลักสูตร Global Executive MBA (GEMBA) โครงการปริญญาโทบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจสากล หลักสูตรนานาชาติ ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจาก The Triple Accredited Business Schools คือ AACSB จากสหรัฐอเมริกา, EQUIS จากสหภาพยุโรป และ AMBA จากสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ในบรรดาสถาบันการศึกษาด้านบริหารธุรกิจจำนวน 13,670 แห่งทั่วโลก มีไม่ถึง 100 แห่งเท่านั้นที่ผ่านการรับรองครบทั้ง 3 มาตรฐาน และเน้นการสอนแบบสาระการเรียนรู้เป็น “Global MBA” โฟกัสให้ผู้เรียนได้เข้าใจธุรกิจนานาชาติในระดับโลก เรียนโดย Case Study ใช้กรณีศึกษา เรียนจากปัญหา เรียนจากประเด็นที่เกิดขึ้นจริง จากวิทยากรผู้คร่ำหวอดในธุรกิจชั้นนำและยังได้ร่วมกับบริษัทชั้นนำของประเทศไทย อย่าง KPMG, TRUE และ DTAC ร่วมออกแบบหลักสูตรและร่วมสอนกับอาจารย์ของธรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาผู้บริหารรุ่นใหม่ให้สามารถยกระดับธุรกิจไทยสู่ระดับสากล

ดร.สุรพิชย์ พรหมสิทธิ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร GEMBA คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงที่มาของหลักสูตรนี้ว่า

“มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีการสอน MBA มายาวมาก ซึ่งตอนนี้จะเห็นได้ว่าศาสตร์ของ MBA หลักสูตรในมหาวิทยาลัยก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุค Digital Transformation เพราะในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก ยิ่งในภาคธุรกิจเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนจำนวน 2-3 เรื่อง เช่น ระบบการทำงานที่เปลี่ยนไป ยุคของคนทำงานที่เป็นวัย Generation Millennials หรือว่าการแข่งขันแบบ Platform ทำให้ธุรกิจต้องคิดใหม่ทำใหม่หลายอย่าง เพราะฉะนั้นหลักสูตร MBA ก็ควรจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุค Transformation ทั้งนี้ธุรกิจ Transform จึงต้อง Transform วิธีคิด วิธีการทำงานและวิธีสอนของ MBA ให้ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้ก็จะต้องมีแนวคิดในการที่จะทำให้หลักสูตรกระชับ ยืดหยุ่นและสามารถทำให้นักศึกษาที่มาเรียนตอบโจทย์ ไปใช้ชีวิตในองค์กรสมัยใหม่ได้ และทั้งหมดนี้ก็เป็นที่มาที่จะต้องปรับปรุงของหลักสูตร MBA ของเรา โดยเฉพาะหลักสูตรนานาชาติก็ต้องมีความเป็นนานาชาติ เข้ากับยุค Digital Transformation ด้วย”

นอกจากนี้ ดร.สุรพิชย์ พรหมสิทธิ์ ยังกล่าวถึงรายละเอียดของหลักสูตรนี้เพิ่มเติมอีกว่า

“หลักสูตรนี้มีทั้งหมด 36 หน่วยกิต 10 วิชา และ 2 การค้นคว้าอิสระ โดยมีการทำโปรเจค 1 ตัว ซึ่ง 10 วิชานี้เป็นวิชาที่เด่นและพัฒนาปรับปรุงมาอย่างดี เช่น Business model in the global live เป็นวิชาที่สำคัญมาก เนื่องจากการมองธุรกิจใหม่กับบริบทในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนเดิม การคิดวิธีการสร้างจุดเด่นของธุรกิจ การทำให้ธุรกิจแข่งขันได้ อีกทั้งบทบาทของผู้บริหารในธุรกิจยุคใหม่ก็ต้องเปลี่ยน ทำให้การมอง Model ของธุรกิจไม่เหมือนเดิม ซึ่งการแข่งขันในเมื่อก่อนอาจจะมีแผนในระยาว 5 ปี ระยะสั้น 1 ปี แต่ปัจจุบันนี้ระยะยาวอาจจะเป็นเวลาแค่ 2-3 ปี ระยะสั้นอาจจะเป็นเพียงหลักเดือน และแผนที่สำคัญที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดและอาจจะมีระยะเวลาไม่แน่นอนคือ แผนแบบ Game Changing การเปลี่ยนเกมส์ทางธุรกิจ ซึ่งเป็นแผนที่สำคัญมากในการทำงานในปัจจุบันนี้

ดังนั้นการออกแบบหลักสูตรในหลายวิชา เช่น วิชา Business Model ก็ปรับให้เข้ากับยุคใหม่ หรือวิชา Global Customer โดยตลาดปัจจุบันเป็นตลาด Digital มากขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคก็เป็นยุค Millennium ซึ่งเป็นผู้บริโภคที่ทำอะไรก็ตามจะมี Ecosystem อยู่ใน Digital การมองเรื่องของลูกค้าก็เปลี่ยนไป รวมไปถึงเมื่อเป็นโลก Digital ทำให้โลกเล็กลง โอกาสในการขายก็จะเกี่ยวข้องกับคนในประเทศต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น พฤติกรรมของลูกค้าในทุก ๆ ประเทศ ก็จะเอามาวิเคราะห์ มาเรียนรู้ด้วยในวิชานี้”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิชา CEO Vision ซึ่งมีการทำวิชาที่แบบอภิปรายและพูดคุยกับ CEO โดยเฉพาะ ซึ่งได้มีการเชิญ CEO มาออกแบบหลักสูตรด้วยว่าการจะเป็น CEO ในอนาคตต้องมองเรื่องอะไรบ้าง เล็งเห็นว่าเรื่องอะไรสำคัญบ้าง และเอามาแชร์ให้กับนักศึกษา

ที่ต้องเชิญ CEO มาเอง เพราะทางมหาวิทยาลัยมองว่า การทำหลักสูตรมันต้อง Outside In เพื่อที่จะทำให้หลักสูตรมีความน่าสนใจที่จะทำให้เกิดการนำไปใช้ได้จริง การฟังแนวคิดเรื่องการเรียนการสอน ก็จะได้ฟังทั้งสองมุม ทั้งมุมแนวคิดจากนักวิชาการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมุมจากการปฏิบัติที่เป็นผู้บริหารแล้วพบปัญหาจริง ๆ และสิ่งที่อยากได้จริง ๆ ในชีวิตจริงว่า การจะทำแบรนด์ การจะเป็นหัวหน้าที่ดีหรือการจะทำกลยุทธ์ที่ปัจจุบันเป็น Pain point แล้วอยากจะนำมาแชร์ในประสบการณ์ที่ทำ จะได้นำไปใช้ได้จริงและรวดเร็ว จึงคิดว่าคนพวกนี้จะต้องมาช่วยออกแบบหลักสูตร”

“ตอนนี้มีผู้บริหารหลายท่านตกลงที่จะเข้ามาร่วมกับหลักสูตรนี้แล้ว เช่น Z.com ซึ่งเป็นบริษัท Digital ของญี่ปุ่นเป็น Fintech, บริษัท True ที่มาช่วยออกแบบ Marketing, บริษัท DTAC ที่มาแชร์ในเรื่องของ CEO Vision, SCG Innovation เป็นต้น”

หลักสูตร Gemba มีความ Unique สูงกว่า MBA ทุกที่ในประเทศไทย เพราะมีชาวต่างชาติมาเรียนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน ซึ่งมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก โดยส่วนใหญ่จะมาจากฝั่งยุโรป และผู้บริหารหรือชาวต่างชาติที่สนใจจะมาเรียนในประเทศไทย ซึ่งตอนนี้มีมาเรียนจริง ๆ แบบ Fulltime 1 ปี มีชาวสิงคโปร์ ชาวกัมพูชา ชาวเนปาล ชาวโปรตุเกส ชาวเวียดนาม เป็นต้น อีกทั้งมีนักศึกษาแบบมาเรียนทุกเทอม ในเทอมหนึ่งมาเรียนแล้วก็ไปจำนวน 30-40 คน ก็จะมาจากยุโรป, อเมริกา จากทั่วโลก

ดังนั้น GEMBA จึงเหมาะกับคนที่ไม่ยึดติดกับ MBA รูปแบบเดิม ๆ เรียนกับผู้ประกอบการ ทำเคสกับเพื่อนต่างชาติ ใช้ชีวิตในห้องเรียนกับคนอื่นซึ่งไม่ใช่คนไทย ซึ่งสอดรับกับที่ ดร.สุรพิชย์ พรหมสิทธิ์ กล่าวถึงสิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับจากหลักสูตรนี้ อันได้แก่

1. ได้ Global Mindset

เหมือนกับอ่านอินเตอร์เน็ต ดู Social Media ก็จะรู้ว่าต่างประเทศเป็นอย่างไร แต่มันไม่เหมือนกัน การมี Global mindset มันเหมือนกับได้สัมผัส ได้ทำงานกลุ่ม ได้พบปัญหากับเพื่อนหลากหลายวัฒนธรรม และได้เห็นว่าคนอื่นเขาทำยังไง บางทีเราคิดว่าการพบปัญหาเดียวกัน วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาของเรานั้นดีมากแล้ว แต่เวลาเราอยู่ในคลาสที่มีเพื่อนต่างชาติเยอะ ๆ มันไม่ใช่ ผมสอน MBA มาเยอะมาก ผมรู้ว่ามันแตกต่าง มันแตกต่างหมายความว่าเวลาเราสอนคลาสที่เป็นคนไทยทั้งหมด คลาสที่ต่างประเทศทั้งหมด แต่คลาสที่มันหลากหลายเวลาทำเคส มันได้มุมมองที่มันไม่เหมือนกัน มันมีประโยชน์มากเพราะคนคิดไม่เหมือนกัน เวลาคนมานำเสนอปัญหาแก้ปัญหา เค้ามีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนเดิม เพราะว่าเค้าอยู่ในวัฒนธรรม ในตลาดที่แตกต่างกันมา ไม่ว่าจะเป็นตลาดนอร์เวย์ ตลาดสวีเดน ตลาดอังกฤษ ตลาดเยอรมัน แล้วพอมาวิเคราะห์ในกรณีเดียวกัน หรือว่าปัญหาเดียวกัน มันก็ทำให้เห็นมุมมองในการแก้ปัญหาที่อาจจะไม่เหมือนกัน

บางที่เราคิดว่าเราดีที่สุด แต่คนอื่นอาจจะบอกว่าปัญหาที่คุณแก้มันยังมีจุดอื่นที่ตัวคุณเองยังนึกไม่ถึง ยังไปไม่สุดหรือแม้กระทั่งบางอย่างที่คนอื่นคิดมา ต่างชาติอาจจะบอกแน่มาก ตัวเราเองก็ยังมองว่ายังไม่สุด คิดว่ายังทำได้อีกหลายอย่างในวิธีของเรา ให้เขาลองเอาไปทำ มันก็ยังมีการแลกเปลี่ยนกัน เพราะฉะนั้น Global mindset เป็นอันดับหนึ่งที่คิดว่า เป็นเรื่องสำคัญหาได้ยาก แล้วก็ไม่ได้มีโอกาสแบบนี้ในหลาย ๆ ที่ คือตอนนี้ต้องยอมรับว่าเมื่อเดินทาง ไปต่างประเทศ ไปเรียนที่เมืองนอก ต่างประเทศคลาส MBA ใครจะเชื่อว่าต่างประเทศบางทีไปไกลแค่ไหน ก็อาจจะมีคนจีนตามไปเรียนด้วยเยอะมาก หรือเพื่อนในห้องอาจจะเป็นชาวเอเชียครึ่งหนึ่ง แต่ที่นี่คือ Mix ของ International 70 เปอร์เซนต์ ที่เป็นหลาย ๆ ประเทศ ไม่ใช่ที่ใดที่หนึ่ง

2.  คือ หลักสูตร Hybrid

ไม่ได้วิชาการร้อยเปอร์เซนต์ หรือไม่ได้เจาะเฉพาะทำเคส มีการรวมการออกแบบที่ออกแบบมาลงตัวในเชิงของภาคธุรกิจและภาควิชาการ  ทำให้แต่ละคลาสมันได้ Combination ทั้งมุมมองในการทำธุรกิจ และมุมมองในทฤษฎีจริง ๆ อย่างการทำ Accounting ซึ่งมั่นใจว่าของเราไม่เหมือนที่ไหน ทั้งนี้ยังได้ KPMG มาเป็น Partner และได้มีการไปเรียนที่ KPMG อย่างวิชา Accounting เรียนธรรมศาสตร์ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งไปเรียนที่ KPMG เพราะฉะนั้นจะได้ระดับ Partner ของ KPMG มาเป็นวิทยากร ออกแบบหลักสูตรสอนร่วมกับทีมอาจารย์ธรรมศาสตร์ด้านบัญชีที่มีประสบการณ์ร่วมกว่า 70 ปี ถือได้ว่าเป็นหลักสูตรที่หายาก สรุปได้ว่า จะได้หลักสูตรความเป็น Hybrid ความลงตัวในการผสมผสานระหว่างทฤษฎี กรณีศึกษา ประสบการณ์จริง ก็คิดว่านี่คือจุดเด่น

3. เป็นหลักสูตรที่เหมาะกับคนทำงาน

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้หากไม่ได้เป็นพนักงานหรือผู้บริหาร แต่เป็นคนที่มีกิจการ มีธุรกิจเป็นของตนเองก็อยากที่จะมีเวลาเรียนที่ลงตัว ไม่ได้เรียนอะไรที่ซับซ้อนแบบที่ต้องไปเรียนทุกคืน ต้องมาเรียนหลาย ๆ วิชาในรอบตัวเดียวกัน ทำให้สับสนจำอะไรไม่ได้ หรือการเรียนปี เป็นเดือน 1 เดือน เรียนทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะไม่เกิดความง่ายต่อการบริหารจัดการชีวิต

สำหรับผู้ที่สนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ หลักสูตร Global Executive MBA (GEMBA) โครงการปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สามารถเข้าไปได้ตามช่องทางด้านล่างนี้

Website : http://gemba.tbs.tu.ac.th/

FB Page : @GEMBATBS