เกาะสีชัง เป็นอีกเกาะที่สวยงามเเละได้รับความนิยมในจังหวัดชลบุรี เพราะเดินทางไม่ยาก เเละสามารถไป-กลับเเบบวันเดียวได้ด้วย การเดินทางถ้ามาเเบบรถส่วนตัว สามารถมาจอดรถที่เกาะลอยได้เลยไม่เสียค่าจอด เเละมีที่จอดค่อนข้างเยอะ สำหรับคนที่เดินทางโดยรถสาธารณะสามารถมาขึ้นรถตู้ที่ขนส่งเอกมัย หรือขนส่งหมอชิตมาลงที่หน้าโรบินสันศรีราชา หลังจากนั้นให้เหมารถมาลงที่เกาะลอย เมื่อมาถึงที่เกาะลอยให้เดินไปซื้อตั๋วเรือตรงท่าที่ขึ้นเรือได้เลย ราคา 50 บาทต่อคน ขาไปจะเริ่มตั้งเเต่ 06.00 - 19.00 น. ขากลับจะเริ่มตั้งเเต่ 08.00 - 18.00 น. โดยจะออกทุก ๆ 2 ชั่วโมง
เมื่อเราเดินทางมาถึงเกาะเเล้ว การเดินทางบนเกาะมีหลายรูปเเบบไม่ว่าจะเช่ามอเตอร์ไซค์ 250 - 300 บาทต่อวัน เหมารถสองเเถว หรือจะเหมาสกายเเลปก็ได้ นั่งได้ประมาณ 4 คน ราคา 250 บาทต่อคัน โดยจะพาเที่ยวทั้งหมด 4 ที่ เเละเราก็เลือกสกายเเลปสำหรับ One day trip บนเกาะสีชัง เพราะสะดวกสบายเเละราคาประหยัด
ที่เเรกที่เราไปคือ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนเขาพระจุลจอมเกล้าส่วนกลาง โดยเราจะต้องเดินขึ้นบันไดไป เเต่ถ้ามีผู้สูงอายุเขาก็มีรถรางบริการ ลักษณะเป็นศาลเจ้าเเบบจีน เชื่อกันว่าถ้าใครได้มากราบไหว้ครบ 3 ปี จะได้โชคลาภ เเละข้างบนยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย
ที่ที่สอง ช่องเขาขาด หรือช่องอิศริยาภรณ์ อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ เป็นจุดที่เวลามองจากที่ไกล ๆ ดูเหมือนเขาขาดจากกัน เเละเป็นที่ตั้งของ "ที่เเลราชโกษา" ที่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างใช้เป็นที่ประทับเพื่อทรงทอดพระเนตรคลื่นทะเล เเละเมื่อเราเดินไปเรื่อย ๆ จะเจอเเหลมวชิราวุธด้วยซึ่งจุดนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก
ที่ต่อมาคือจุดที่เราเเวะถ่ายรูปนานที่สุดเพราะจุดนี้มีที่สวย ๆ เเละสำคัญเยอะมาก เราเรียกจุดนี้ว่า พระจุฑาธุชราชฐาน โดยพระที่นั่งจุฑาธุชนี้รัชกาลที่ 5 มีพระบรมราชโองการให้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2435 การดำเนินการเป็นไปเรื่อย ๆ จน พ.ศ. 2536 เกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส กองทหารฝรั่งเศสได้มายึดเกาะสีชัง การก่อสร้างจึงหยุดลง เมื่อถึง พ.ศ. 2443 จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระที่นั่งมาสร้างในพระราชวังดุสิต เเละพระราชทานนามใหม่ว่า "พระที่นั่งวิมานเมฆ" โดยที่เกาะสีชังนี้เรายังคงเห็นร่องรอยของการก่อสร้างพระที่นั่งอยู่
นอกจากพระที่นั่งเเล้วยังมีอาคารอีกหลายหลังที่ถูกสร้างขึ้นบนเกาะเเห่งนี้ เเละปัจจุบันเป็นที่นัดเเสดงนิทรรศการต่าง ๆ เกี่ยวกับเกาะสีชังไม่ว่าจะเป็น เรือนผ่องศรี เรือนอภิรมย์ เเละเรือวัฒนา สร้างเป็นอาไศรย์สฐาน เพื่อเป็นที่พักฟื้นสำหรับชาวไทยเเละชาวต่างประเทศ
เเละเรือนที่ได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นร้านกาเเฟด้วยคือ เรือนไม้ริมทะเล สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เเต่ไม่ปรากฏเเน่ชัดว่าสร้างขึ้นปีไหน สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรือนพักของชาวต่างประเทศมาก่อน บริเวณหน้าอาคารเเห่งนี้ยังเป็นจุดนั่งชมวิวเเละรับลมทะเลได้ดีทีเดียว
เเละอีกหนึ่งจุดสำคัญของบริเวณนี้ก็คือ สะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานไม้สักสีขาวที่ทอดยาวไปในทะเล คนนิยมมาถ่ายรูปจุดนี้ เเละยังนิยมมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันด้วย รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น
เเละจุดสุดท้ายของบริเวณนี้ที่ไม่อยากให้พลาดคือ พลับพลาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเสด็จเเปรพระราชฐานมาประทับ ณ เกาะสีชังเป็นเวลานานเเละบ่อยครั้ง ระหว่าง พ.ศ. 2431-2435 ใครมาเยือนเกาะเเห่งนี้จึงไม่อยากให้พลาดที่จะมากราบไหว้พระองค์ท่านเพื่อเป็นสิริมงคล
เเละสถานที่สุดท้ายที่พาไปคือ หาดถ้ำพัง เป็นสถานที่ที่ 4 เเละสถานที่สุดท้ายของทริป เป็นหาดที่สามารถลงเล่นน้ำได้
GPS เกาะลอย : https://goo.gl/maps/nCMoZ9NcyxH2