ซึ่งความฉลาดที่จะช่วยสร้างความสุขให้กับลูกนั้น ไม่ใช่เพียงความฉลาดในด้านวิชาการ หรือความฉลาดในเรื่องของการเรียนเพียงอย่างเดียว วันนี้เรามี 5 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความฉลาดแบบรอบด้านให้กับลูกมาฝากกันค่ะ
เพราะหนังสือ คือการประมวลเรื่องราวต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว มาให้ลูกได้อ่านและทำความเข้าใจอย่างง่าย ๆ อีกทั้งยังเป็นการช่วยต่อยอดทักษะทางภาษาให้กับลูกได้ด้วย เพราะหนังสือคือคลังคำอันเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ภาษาให้แก่เด็ก โดยเฉพาะ “นิทาน” คือตัวช่วยต่อยอดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูก และยิ่งเป็นนิทานคำกลอนด้วยแล้วเด็กเล็กจะชอบฟังเป็นพิเศษ เพราะมีเสียงคล้องจองกันสนุกสนาน นอกจากนั้น พ่อแม่ยังสามารถปลูกฝังจริยธรรมผ่านนิทานได้ด้วย และในขณะที่พ่อแม่เล่านิทานให้ลูกฟังนั้น การโอบกอด สัมผัสที่อบอุ่น และแน่นแฟ้น เป็นการยืนยันให้ลูกรู้ว่าเขามีค่ากับพ่อแม่มากเพียงใด ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้ลูกได้อีกด้วย
ความรับผิดชอบ เป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การที่พ่อแม่ฝึกให้ลูกได้รู้จักช่วยเหลือตัวเอง รู้จักวางเป้าหมายในการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองให้สำเร็จ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยหล่อหลอมและปลูกฝังให้ลูกมีบุคคลิกของการเป็นผู้นำ ที่มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง และยังเป็นการปลูกฝังจิตสาธารณะ โดยเริ่มจากการดูแลบุคคลในครอบครัว และส่งต่อไปสู่สังคม
พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกได้แก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเองบ้าง เด็กที่เรียนรู้การแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองจะเป็นเด็กที่มีความพยายาม ไม่ย่อท้อต่อปัญหา รู้จักใช้สมองส่วนหน้าที่เกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์พลิกแพลงแก้ปัญหาได้ รู้จักสื่อสารความคิดของตนเองให้ผู้อื่นเข้าใจ และเรียนรู้ "การพึ่งตนเอง" เมื่อวันหนึ่งที่เขาต้องเผชิญโลกนี้คนเดียว เขาจะมีทักษะในการปรับตัว และก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้
ความสัมพันธ์ที่ดีของคนในครอบครัวจะทำให้ลูกรู้สึกมั่นคง ปลอดภัยทางจิตใจ ไม่รู้สึกหวั่นไหว ซึ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ เด็กที่มีความสุข จะมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และมีแรงบันดาลใจในการคิดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในขณะเดียวกันเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ขาดความสุข มักมีจิตใจที่ไม่มั่นคง และหวาดกลัวต่อสภาพแวดล้อมใหม่ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเรียนรู้ และส่งผลต่อพัฒนาการโดยรวมของลูก
เพราะ “การเล่น” คือวิธีที่ช่วยกระตุ้นให้สมองของเด็ก เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข และการเรียนรู้ที่มีความสุข ย่อมก่อเกิดประสิทธิภาพในการจดจำ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เราจะเห็นได้ว่า “การเล่น” เริ่มถูกนำมาใช้ในการบูรณาการการสอนในเด็กปฐมวัยมากขึ้น เพราะการเล่นในช่วงปฐมวัย คือ จุดเริ่มต้นสำคัญต่อการพัฒนากระบวนการเรียนรู้โดยรวม ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้กับเด็ก
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.