วันนี้เราจะมาช่วยคลายความกังวลของพ่อแม่ ด้วยการแนะนำวิธีการเตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนเข้าเรียนมาฝากกันค่ะ
ในที่นี้หมายถึง ลูกต้องมีความพร้อมในเรื่องของกระบวนการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ มีทักษะการฟังที่ดี มีความเข้าใจ และสามารถสื่อสารขั้นพื้นฐานได้ มีประสาทสัมผัสที่ดี สามารถเปิดรับข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้ และส่งต่อไปยังอวัยวะเพื่อรับ – ส่งข้อมูลได้ และเมื่อลูกได้รับการกระตุ้นประสาทสัมผัสด้วยวิธีการที่เหมาะสม จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงของเส้นใยประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้และทำความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยกระบวนการเหล่านี้สามารถสร้างได้โดยการจัดกิจกรรมที่เน้นให้ลูกได้ลงมือทำ และเรียนรู้ด้วยตนเอง
เมื่อเข้าสู่วัยเรียน ทักษะสำคัญที่ลูกต้องใช้ในการเรียนรู้ก็คือ ทักษะการขีดเขียน ซึ่งต้องใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กเป็นสำคัญ เคยมีงานวิจัยระบุว่า ความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็ก เชื่อมโยงต่อระดับสติปัญญาของเด็กคนนั้น ยิ่งเด็กมีความสามารถในการใช้ทักษะมือมาก ยิ่งมีระดับสติปัญญาที่สูงขึ้นตามมา และมีผลต่อการเรียนรู้ภาษาได้เร็วขึ้นด้วย โดยในการใช้ทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็กนั้น จะมีอีกหนึ่งทักษะที่จะต้องใช้คู่กันเสมอ ก็คือ ทักษะมือตาสัมพันธ์ ซึ่งเมื่อทั้ง 2 ทักษะถูกใช้ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วนั้น จะช่วยส่งเสริมให้กระบวนการเรียนรู้ของลูก ทั้งทักษะการเขียน การวาด การตัด หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
การเตรียมความพร้อมเมื่อลูกต้องเข้าสู่วัยเรียน สิ่งที่สำคัญก็คือ พ่อแม่ควรมีการปูพื้นฐานความรู้ต่าง ๆ ให้กับลูก โดยอาจเริ่มจากเรื่องใกล้ตัว สี รูปทรง จำนวน สิ่งของที่อยู่ภายในบ้าน โดยสิ่งเหล่านี้พ่อแม่อาจจะสอนได้โดยการให้ลูกได้เล่น ได้อ่าน ได้เที่ยวเยอะ ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเปรียบเสมือนคลังความรู้ของลูก ลูกจะเก็บสะสมข้อมูลที่ได้เห็นและนำมาใช้เชื่อมโยงกับเนื้อหาบทเรียน การสอนแบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปจะช่วยให้ลูกเกิดความเข้าใจ และมีความสุขที่ได้เรียนรู้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อทัศนคติของลูก เมื่อเข้าโรงเรียน ลูกจะเป็นเด็กที่สนุกกับการเรียนและพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เมื่อเข้าสู่โรงเรียน นั่นหมายถึง ลูกจะต้องออกจากอ้อมอกของพ่อแม่ ไปสู่โลกแห่งความจริงที่เขาจะต้องเริ่มใช้ชีวิต หรือดูแลตัวเองในขั้นพื้นฐานให้ได้ โดยการฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเองนั้น อาจเริ่มจากกิจกรรมง่าย ๆ ใกล้ตัว เช่น การทานอาหาร แต่งตัว ซึ่งเมื่อลูกได้รับการเตรียมความพร้อมจากทางบ้านแล้ว เมื่อต้องไปโรงเรียนเขาจะมีความมั่นใจ และมีความพร้อมที่จะดูแลตัวเองได้
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.