วันนี้เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ เพื่อใช้เป็นตัวช่วยให้เจ้าตัวเล็กของแต่ละบ้าน นอนหลับง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ
พ่อแม่จะต้องสร้างบรรยากาศที่น่านอนให้กับลูก โดยในห้องนอนจะต้องเป็นห้องที่เงียบ สงบ ไม่มีเสียงดังรบกวน และแสงไฟไม่สว่างจนเกินไป พ่อแม่ควรหรี่ไฟให้สลัว หรืออาจเปิดเพียงโคมไฟเล็ก ๆ เพราะถ้าแสงไฟมากเกินไปอาจทำให้ลูกนอนหลับยาก หรือนอนหลับได้ไม่สนิท
พ่อแม่ควรมีการกำหนดเวลาที่แน่นอนให้กับลูก ว่าเวลาไหนคือเวลานอน และปฏิบัติเช่นเดิมในทุก ๆ วัน เช่น ลูกต้องเข้านอนตอน 1 ทุ่ม พ่อแม่ก็ต้องพาลูกเข้านอนตรงเวลา 1 ทุ่มของทุกวัน ถึงแม้ในช่วงแรกลูกอาจจะยังไม่คุ้นเคย งอแง ไม่ยอมนอน พ่อแม่ต้องใช้ความอดทน และปฏิบัติซ้ำ ๆ เช่นเดิมไปในทุกวัน ลูกจะเริ่มปรับตัวและเข้านอนตรงตามเวลาเดิม
หากเป็นไปได้พ่อแม่ไม่ควรที่จะมีสื่อทุกประเภทอยู่ในห้องนอน ห้องนอนควรเป็นห้องที่ใช้สำหรับพักผ่อน คงมีหลายบ้านที่ในขณะลูกนอนพ่อแม่ก็จะเปิดโทรทัศน์ไปด้วย ซึ่งสิ่งนี้เองยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ประสาทการรับรู้ของลูกยังคงตื่นตัว และเป็นไปได้ยากที่จะนอนหลับได้
ในห้องนอนไม่ควรที่จะมีของเล่น ลูกจะต้องเรียนรู้เมื่อเข้าสู่ห้องนอน ก็คือ การเตรียมตัวพักผ่อนนอนหลับ หากในห้องนอนยังมีการเล่น หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่ก็เท่ากับเป็นการกระตุ้นให้สมองและร่างกายของลูกยังคงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
ในทุกคืนพ่อแม่อาจมีนิทาน 1 เรื่อง ที่ใช้อ่านให้ลูกฟังเวลาก่อนนอน โดยผลการวิจัยพบว่า เด็กตั้งแต่ 3- 8 ปี โปรดปรานการฟังนิทานก่อนนอนจากคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด นายริชาร์ด วูฟสัน นักจิตวิทยาเด็ก ผู้ทำการศึกษาให้กับ Disneys Pixar World of Cars กล่าวว่า มากกว่าครึ่งของเด็กวัย 3-8 ปี บอกว่าช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่อ่านนิทานให้ฟัง เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่พวกเขาชอบมากที่สุด และข้อดีที่สุดของนิทานอีกข้อก็คือ นิทานทำให้เด็กนอนหลับได้สนิท
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.