Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ของดีมีอยู่กับตัว โดย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

Posted By มหัทธโน | 17 ม.ค. 62
7,928 Views

  Favorite

 

ของดีมีอยู่กับตัว 

ของดีมีอยู่กับตัวเราทุกคน ก็พากันปฏิบัติเอา ทำเอา 
เมื่อเวลาตายแล้วจึงวุ่นวายหานิมนต์พระมากุสลามาติกา 
ไม่ใช่เกาถูกที่คัน ต้องรีบแก้เสียบัดนี้

คือ เร่งทำความดีแต่บัดนี้ 
จะได้หายห่วง อะไร ๆ ที่เป็นสมบัติของโลก 
มิใช่สมบัติอันแท้จริงของเรา ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล 

สมบัติในโลกเราแสวงหามา หามาทุจริตก็เป็นไฟเผา 
เผาตัวทำให้ฉิบหายได้จริง ๆ 
ข้อนี้ขึ้นอยู่กับความฉลาดและความโง่เขลาของผู้แสวงหาแต่ละราย 

ท่านผู้พ้นทุกข์ไปด้วยความอุตส่าห์สร้างความดีใส่ตน
จนกลายเป็นสรณะของพวกเรา 
ท่านไม่เคยมีสมบัติเงินทองเครื่องหวงแหน 
เป็นคนร่ำรวย สวยงามเฉพาะสมัย 
จึงพากันรัก พากันห่วง จนไม่รู้จักเป็น รู้จักตาย 
สำคัญตนว่าจะไม่ตายและพากันประมาทจนลืมตัว 
เพลิดเพลินตักตวงเอาแต่สิ่งไม่เป็นท่าใส่ตนแทบหาบไม่ไหว 
 

อย่าสำคัญว่าตนเอง เก่งกาจสามารถฉลาดรู้กว่าเขาเลย 
ถึงกับสร้างความมืดมิดปิดตาทับถมตัวเอง จนไม่มีวันสร่างซา 
เมื่อถึงเวลาจนตรอกอาจจนยิ่งกว่าสัตว์ 
ถ้าไม่เตรียมทราบไว้เสียแต่บัดนี้ ซึ่งอยู่ในฐานะอันควร 
 

อาตมาขออภัยด้วย ถ้าพูดหยาบคายไป 
แต่คำพูดที่สั่งสอนคนให้ละชั่ว ทำความดี จัดเป็นหยาบคายอยู่แล้ว 
โลกเราก็จะถึงคราวหมดสิ้นศาสนา เพราะไม่มีผู้ยอมรับความจริง 
การทำบาปหยาบคายมีมาประจำแทบทุกคน 
ทั้งให้ผลเป็นทุกข์ ตนยังไม่อาจรู้ได้ และตำหนิมันบ้าง 
พอมีทางคิดแก้ไข แต่กลับตำหนิคำสั่งสอนหยาบคาย ก็นับเป็นโรคที่หมดหวัง

เมื่อมีผู้เตือนสติ ควรยึดมาเป็นธรรมคำสอน 
จะเป็นคนมีขอบเขตมีเหตุผล ไม่ทำตามความอยาก 
เมื่อพยายามฝ่าฝืนให้เป็นไปตามทางของนักปราชญ์ได้จะประสบผล
คือความสุขในปัจจุบันทันตา แม้จะมิได้เป็นเจ้าของเงินล้าน 
แต่มีทางได้รับความสุขจากสมบัติและความประพฤติดีของตน

คนฉลาดปกครองตนให้มีความสุขและปลอดภัย 
ไม่จำต้องเที่ยวแสวงหาทรัพย์มากมาย 
หรือเที่ยวกอบโกยเงินเป็นล้านๆ มาเป็นเครื่องบำรุงจึงมีความสุข 
ผู้มีสมบัติพอประมาณในทางที่ชอบ 
มีความสุขมากกว่าผู้ได้มาในทางมิชอบเสียอีก 

เพราะนั่นไม่ใช่สมบัติของตนอย่างแท้จริง ทั้ง ๆ ที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ 
แต่กฎความจริง คือ กรรมสาปแช่งไม่เห็นด้วยและให้ผลเป็นทุกข์ไม่สิ้นสุด 
นักปราชญ์ท่านจึงกลัวกันหนักหนา

แต่คนโง่อย่างพวกเราผู้ชอบสุกเอาเผากิน และชอบเห็นแก่ตัว 
ไม่มีวันอิ่มพอ ไม่ประสบผล คือ ความสุขดังใจหมาย

คนหิวอยู่เป็นปกติสุขไม่ได้ จึงวิ่งหาโน่นหานี่ 
เจออะไรก็คว้าติดมือมาโดยไม่สำนึกว่าผิดหรือถูก 
ครั้นแล้วสิ่งที่คว้ามาก็มาเผาตัวเองให้ร้อนยิ่งกว่าไฟ 
คนที่หลงจึงต้องแสวงหา

 

ถ้าไม่หลงก็ไม่ต้องหา จะหาไปให้ลำบากทำไม 
อะไร ๆ ก็มีอยู่กับตัวเองอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว 
จะตื่นเงาตะครุบเงาไปทำไม เพราะรู้แล้วว่า เงาไม่ใช่ตัวจริง 
ตัวจริงคือ สัจจะทั้งสี่ที่มีอยู่ภายในใจอย่างสมบูรณ์แล้ว
 

ความมั่งมีศรีสุขจะไม่บังเกิดแก่ผู้ทุจริต 
สร้างกรรมชั่วมีมากเท่าไรย่อมหมดไป
พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายที่สร้างบาปกรรมไว้
ผลกรรมนั้นย่อมตกอยู่กับลูกหลานรุ่นหลังให้มีอันเป็นไป 
ผู้ทุจริตเบียดเบียน รังแกผู้อื่น จะหาความสุขความเจริญไม่ได้เลย 


(จากหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
โดย ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

-------------------------------------------------------------------

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • มหัทธโน
  • 4 Followers
  • Follow