เสื้อผ้าโดยทั่วไปที่ทำมาจากพืช จะมาจากเซลลูโลส (C6H10O5)n ของพืช ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์โดยประกอบด้วยโมเลกุลของกลูโคสหลายพันโมเลกุลมาต่อเข้าด้วยกันเป็นสายโซ่ยาว โดยแต่ละหน่วยย่อยของกลูโคสจะสร้างพันธะไฮโดรเจนระหว่างกันจนเป็นโครงข่ายที่แข็งแรง ทำให้ผ้ามีความเหนียวและแข็งแรงได้
อย่างไรก็ตาม พันธะไฮโดรเจนนั้นเป็นพันธะที่ไม่แข็งแรงนัก เมื่อเทียบกับพันธะเคมีอื่น ๆ ดังนั้น เพียงแค่เรานำเสื้อผ้าที่ต้องการจะรีดมากองรวมกันก่อนจะกางโต๊ะรองรีดผ้าและเริ่มลงมือรีดผ้าอย่างจริงจัง พันธะไฮโดรเจนดังกล่าวจะถูกทำลาย และพวกมันก็จะสร้างพันธะขึ้นมาใหม่ทันที แต่พันธะใหม่ที่สร้างขึ้นมานี้กลับทำให้เกิดร่องรอยยับที่เพิ่มขึ้นบนเสื้อผ้า
หากเราใช้เตารีดทับลงไปบนรอยยับของเสื้อผ้า จะพบว่า กว่าที่พวกมันจะเรียบนั้น เราก็ต้องทับรอยยับซ้ำ ๆ กันอยู่หลายครั้งทีเดียว เพราะมีเพียงพลังงานความร้อนจากเตารีดเท่านั้นที่เราใช้ทำลายพันธะไฮโดรเจน ขณะที่การพรมน้ำลงไปบนผ้าเล็กน้อย จะช่วยให้ผ้าเรียบง่ายขึ้น เนื่องจากโมเลกุลของน้ำจะแทรกเข้าไประหว่างโมเลกุลของเซลลูโลส ประกอบกับความร้อนจากเตารีด จึงช่วยทำลายพันธะไฮโดรเจนได้ง่ายขึ้น ทำให้โมเลกุลของเซลลูโลสสามารถเลื่อนไปมาได้ จากนั้นเซลลูโลสจะสร้างพันธะไฮโดรเจนขึ้นมาใหม่พร้อมกับการถูกกดทับจากเตารีด จึงทำให้ผ้าเรียบนั่นเอง
นอกจากนี้วิทยาศาสตร์ยังมีวิธีการที่จะช่วยให้ผ้าเรียบและแข็งโดยไม่ต้องรีดอย่างการลงแป้ง เนื่องจากแป้งนั้นมีกิ่งของโพลีเมอร์อยู่ ซึ่งเมื่อรวมกับเซลลูโลสแล้วจะจับโมเลกุลของเซลลูโลสทั้งหมดไว้ ทำให้ผ้าอยู่ทรงมากขึ้น รวมถึงวิธีการพิเศษในกระบวนการผลิตผ้าก็ช่วยลดปัญหาผ้ายับหลังการซักได้ด้วย โดยการเติมสารประกอบอินทรีย์ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde, CH2O) ลงไปในกระบวนการผลิต เพื่อสร้างพันธะเชื่อมระหว่างงสายโซ่โมเลกุล ซึ่งจะทำให้โมเลกุลยึดกันได้แข็งแรงขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
- พันธะเคมี : พันธะไอออนิก พันธะโคเวเลนต์ พันธะโลหะ