Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

พ่อแม่ทำอย่างไร เมื่อหนูไม่ขอโทษ

Posted By สุภาพรรณ ศรีสุข | 20 พ.ย. 61
4,872 Views

  Favorite

พ่อแม่ส่วนใหญ่มักมองว่า การที่ลูกพูดคำว่า “ขอโทษ” คือ การทำให้ลูกรู้และสำนึกถึงความผิดของตนเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วลูกคิดแบบที่พ่อแม่คิดหรือไม่

 

เมื่อลูกพูดคำว่า “ขอโทษ” ออกไปแล้ว ลูกรับรู้ถึงสิ่งที่ตนเองได้ทำไปหรือไม่ว่าคือความผิด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องหันกลับมาทำความเข้าใจและใส่ใจ ในบางครั้งผลลัพธ์ของการยอมรับในความผิด อาจไม่สำคัญเท่าการสอนให้ลูกรู้ถึงต้นเหตุ หรือสาเหตุของการที่ลูกทำผิดมากกว่า แล้วจะมีวิธีสอนหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ลูกได้อย่างไร เราลองมาหาคำตอบกันค่ะ

 

ภาพ : Shutterstock

 

พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี

เคล็ดลับของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลูกที่สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็วที่สุดก็คือ การที่มีพ่อแม่เป็นต้นแบบ และหมั่นทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ดังนั้น หากพ่อแม่อยากสอนให้ลูกรู้จักการขอโทษ พ่อแม่ก็ควรเรียนรู้ที่จะขอโทษเมื่อตนเองทำผิดด้วย อย่าเขินหรือรู้สึกอายที่จะขอโทษต่อหน้าลูก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเผลอตะคอกใส่ลูกโดยปราศจากเหตุผล อย่าลืมที่จะอธิบายให้ลูกฟังว่า ที่คุณทำนั้น คุณไม่ได้ตั้งใจ แต่เผลอทำไปเพราะตอนนั้นคุณกำลังเครียดและหงุดหงิดอยู่ อธิบายให้ลูกรู้ว่าทุกคนย่อมทำผิดกันได้ทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความเข้าใจและทำให้ลูกรับรู้ได้ว่า การทำผิดอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน และการขอโทษนั้นไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรง แต่เป็นสิ่งที่ควรทำ

ขอโทษจากใจ ไม่ใช่บังคับ

มีพ่อแม่จำนวนมากที่เมื่อเห็นลูกทำผิด หรือทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จะบังคับและตะคอกให้ลูกขอโทษทันที ซึ่งผลลัพธ์ของเหตุการณ์เหล่านี้มักตามมาด้วยการที่ลูกร้องไห้ อาละวาด และทำพฤติกรรมที่แย่ลงไปกว่าเดิม ดังนั้นเคล็ดลับสำคัญเมื่อพ่อแม่อยากให้ลูกขอโทษ ก็คือ การค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ สอนให้ลูกเข้าใจถึงสิ่งที่ตนเองทำ อธิบายว่าทำไมลูกถึงไม่ควรทำสิ่ง ๆ นั้น เมื่อทำแล้วจะเกิดผลเสียกับตัวลูกอย่างไร เมื่อลูกเกิดความเข้าใจ ความรู้สึกสำนึกถึงความผิดนั้น ๆ จะก่อตัวขึ้น และทำให้ลูกอยากที่จะขอโทษด้วยตนเอง สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรจำไว้ก็คือ ลูกไม่ได้อยากเป็นเด็กไม่ดี แต่พฤติกรรมที่ไม่ดีเกิดขึ้นเพราะเขายังขาดประสบการณ์นั่นเอง

อย่า "ซ้ำเติม" ความผิดลูก

ในบางครั้งลูกอาจทำผิดพลาดในเรื่องเดิมบ้าง แต่สิ่งที่พ่อแม่ควรทำก็คือ ไม่พูดซ้ำเติมถึงความผิดนั้นของลูกอีก เพราะในบางครั้งด้วยความเป็นเด็ก กระบวนการเรียนรู้ หรือการกระบวนการแก้ปัญหาของลูก อาจยังทำงานสอดประสานกันได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นปัญหาในบางเรื่องลูกอาจจะยังแก้ไขปัญหาได้ไม่ดีนัก พ่อแม่จึงควรทำความเข้าใจ และให้กำลังใจลูกในการแก้ปัญหามากกว่าการซ้ำเติม เพราะยิ่งพ่อแม่ซ้ำเติมความผิดของลูกมากเท่าไหร่ ลูกก็จะยิ่งรู้สึกเสียใจและปกป้องตัวเองจากความผิดของเรื่องนั้น ๆ มากขึ้น ซึ่งนอกจากลูกจะไม่รู้สึกผิด หรืออยากขอโทษกับเรื่องนั้น ๆ แล้ว อาจนำไปสู่การโกหก เพื่อปกปิดความผิดนั้นไปเลยก็เป็นได้

 

สำหรับบางครอบครัว การ “ขอโทษ” อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ บางครอบครัวอาจมองว่าลูกยังเด็กเลยปล่อยผ่าน และไม่ใส่ใจกับการสอนให้ลูก “ขอโทษ” เพราะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริง ๆ แล้ว การสอนให้ลูกรู้จักคำ “ขอโทษ” นั้น ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การสอนให้ลูกยอมรับในความผิด แต่เป็นการสอนเรื่องวินัย ความเข้าใจเหตุผล การกล้ายอมรับความผิด ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมค่ะ

 

 

สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • สุภาพรรณ ศรีสุข
  • 4 Followers
  • Follow