แต่การพาลูกออกไปเที่ยวก็มักตามมาด้วย ความกังวลในเรื่องความปลอดภัยของลูก โดยเฉพาะพ่อแม่ที่มีลูกกำลังอยู่ในวัยซน วันนี้แม่แหม่มจึงมีวิธีเตรียมความพร้อมง่าย ๆ เพื่อให้พ่อแม่คลายความกังวลใจในการพาลูกไปเที่ยวนอกบ้านมาฝากกันค่ะ
เพราะในวัยเด็ก ความพร้อมในเรื่องอารมณ์เป็นตัวแปรสำคัญที่พ่อแม่ควบคุมได้ยาก ดังนั้นในการพาลูกออกไปเที่ยว พ่อแม่ควรพิจารณาในเรื่องเวลาเป็นสำคัญ เช่น สถานที่ที่จะพาลูกไปต้องใช้เวลาเดินทางนานไหม ในครั้งแรก ๆ ควรเลือกพาลูกไปในสถานที่ที่ใกล้บ้านก่อน เพื่อสร้างความคุ้นชินในการเดินทางให้กับลูก หรือเวลาที่พ่อแม่เลือกที่จะพาลูกไปเที่ยว ควรเป็นเวลาที่ลูกมีความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น ไม่ง่วงหรือหิว เพราะตัวแปรเหล่านี้อาจทำให้ลูกหงุดหงิด และไม่มีความสุขกับการออกไปเที่ยวในครั้งนี้
การพาลูกออกไปนอกบ้าน พ่อแม่อาจต้องเพิ่มความเอาใจใส่ลูกมากเป็นพิเศษ ตั้งแต่การเดินทาง ที่ต้องมีการเตรียมที่นั่ง ติดตั้งคาร์ซีทให้เรียบร้อย เตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่คิดว่าลูกต้องใช้ รวมทั้งสายตาต้องไว และมองลูกไว้ไม่ให้คลาดสายตา เพราะในบางครั้งความละเลยแค่เพียงเสี้ยววินาที อาจเป็นการเปิดโอกาสให้กับคนที่คิดร้ายเข้ามาทำอันตรายลูกเราได้
พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้และเข้าใจเสมอว่า คนแปลกหน้าอย่างไรก็คือคนแปลกหน้า ไม่ควรไว้ใจ หรือไปไหนกับใครง่าย ๆ เมื่อออกนอกบ้านลูกควรจับมือ หรือไม่เดินห่างพ่อกับแม่ ที่สำคัญพ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักการรักษาพื้นที่ของตนเอง เช่น รู้จักการปฏิเสธ หรือไม่ให้คนแปลกหน้าเข้ามาถึงตัว สำหรับเด็กที่เริ่มโตพอที่จะสื่อสารกับพ่อแม่ได้รู้เรื่อง พ่อแม่อาจสอนให้ลูกตั้งรหัสลับ ที่มีเพียงแต่คุณกับลูกเท่านั้นที่รู้ เพื่อใช้ในการสื่อสารหรือเป็นข้อตกลงระหว่างกันก็ได้
เพราะเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ หากวันหนึ่งคุณกับลูกเกิดพลัดหลงกันระหว่างเดินทางหรือเดินเที่ยว ข้อมูลสำคัญที่ควรฝึกให้ลูกจำให้ได้คือ ชื่อของคุณพ่อคุณแม่ หรือเบอร์โทรศัพท์ของคนที่ติดต่อได้ ซึ่งหากลูกยังเล็กเกินไป ควรพกป้ายแท็ก หรือเขียนชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของคุณใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากางเกงของลูก โดยเขียนให้เห็นได้อย่างชัดเจน
เมื่อพ่อแม่พาลูกไปในสถานที่ใดก็ตาม พ่อแม่ควรชักชวนให้ลูกสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว เป็นการปูพื้นให้ลูกได้ฝึกความจำและการสังเกตในรายละเอียด และที่สำคัญเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เมื่อลูกพลัดหลงกับพ่อแม่ รายละเอียดเหล่านี้จะช่วยทำให้ลูกสามารถอธิบายเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่นได้
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.