เมื่อเข้าสู่ช่วงการสอบลูกอาจมีภาวะความเครียด และมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ดังนั้นในฐานะพ่อแม่จึงต้องทำความเข้าใจและช่วยเตรียมความพร้อมให้ลูกทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อช่วยให้ลูกผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้
ในการสอบแต่ละครั้ง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ สมาธิ ลูกจะต้องมีสมาธิจดจ่ออยู่กับโจทย์ และการทบทวนความรู้จากสิ่งที่ได้เรียนไปแล้ว พ่อแม่จะต้องฝึกให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์ตนเอง ไม่ตื่นเต้น หรือเครียดจนเกินไป และที่สำคัญ ก่อนวันสอบควรให้ลูกนอนแต่หัวค่ำ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้เด็กมีสมองและจิตใจที่สดชื่น แจ่มใส
ในการสอบนั้น สิ่งสำคัญก็คือ การทำตามโจทย์และเงื่อนไขของคำถามได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นพ่อแม่จึงควรฝึกทักษะการฟังและการตอบคำถามง่าย ๆ ให้กับลูก ลูกจะต้องรู้จักการฟังสรุปความ คือ เมื่อฟังสิ่งที่ครูเล่าแล้ว สามารถสรุปใจความสำคัญได้ เมื่อคุณครูตั้งคำถามต่อไป ลูกก็จะสามารถหยิบยกเนื้อหาจากเรื่องราวที่คุณครูอ่านมาใช้ในการตอบคำถามได้ ซึ่งวีธีการฝึกง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ลูกมีทักษะการฟังที่ดี คือ การที่พ่อแม่หมั่นเล่านิทานให้ลูกฟังนั่นเอง
เพราะในห้องสอบ คือ สถานที่ที่ลูกจะต้องอยู่ด้วยตนเอง และพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด เพราะการสอบคือการประเมินผลรายบุคคล ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาเฉพาะหน้า ลูกจะต้องสามารถแก้ไขด้วยตนเองได้อย่างทันท่วงที โดยไม่ตื่นตระหนก เช่น ถ้าข้อสอบไม่ชัด หรือขาดหายไป ลูกจะต้องรู้จักยกมือ และแจ้งความผิดปกติให้ครูทราบ
พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกมีความละเอียดรอบคอบ เพราะในการทำข้อสอบนั้น เมื่อผ่านไปแล้ว ผลของการสอบจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขได้อีก พ่อแม่ควรฝึกเรื่องของการอ่านโจทย์ให้รอบคอบ การมองไล่สายตาจากซ้าย – ขวา และควรฝึกให้ลูกมีการตรวจเช็คคำตอบเพื่อทบทวนด้วย โดยสิ่งเหล่านี้สามารถฝึกได้ตั้งแต่ที่บ้าน เช่น การฝึกให้ลูกเก็บของเล่นโดยแยกประเภท หรือฝึกให้ลูกเล่นเกมส์ที่เกี่ยวกับการสังเกตบ่อย ๆ
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.