แต่ก่อนที่จะข้ามไปสู่คำแนะนำขั้นตอนการดูแลรักษาผิวพรรณรวมถึงสุขภาพนั้น เรามาทำความเข้าใจกับคอลลาเจนในร่างกายของเราก่อน คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดจากการรวมตัวของ กรดอะมิโน (Amino Acid) หลายชนิดต่อกัน ซึ่งกรดอะมิโนที่พบเจอเยอะสุดที่อยู่ในคอลลาเจน ประกอบด้วย กรดอะมิ Glycine, Proline และ Hydroxyproline คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักของ ผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย ทำหน้าที่เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย และเชื่อมเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มมีการสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง และจะค่อย ๆ สูญเสียคอลลาเจนเหล่านี้ไปถึงปีละ 1.5 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้การเชื่อมต่อของเนื้อเยื่ออ่อนแอลง เมื่อคอลลาเจนในร่างกายลดลงจะทำให้เราสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย เช่น มีริ้วรอยตามมา ผิวขาดความยืดหยุ่น ผม เล็บ เปราะแตกง่าย หรือมีอาการปวดตามข้อของร่างกายเกิดขึ้นนั่นเอง
เราสามารถลดปัจจัยการเสื่อมสลายของคอลลาเจนในร่างกายได้ โดยการดูแลสุขภาพผิวจากภายใน ซึ่งทำได้หลายวิธีตามศาสตร์การดูแลรักษาสุขภาพด้วยธรรมชาติและสมุนไพร รวมถึงอาหารการกินที่บริโภคก็มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว อย่างการเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยผลิตคอลลาเจนทดแทนให้กับร่างกาย เช่น
เช่น มะเขือเทศ, หอมแดง, แอปเปิลสีแดง, สตรอเบอร์รี่, เชอรี่, ส้มโอสีชมพู, ทับทิม, องุ่นแดง, แตงโม, บีทรูท, แอปเปิ้ลสีแดง เป็นต้น ผลไม้สีแดงจะมีไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ ต้องเลือกรับประทานผักผลไม้เหล่านี้หรืออาหารเสริมสกัดเข้าไป โดยสารอาหารเหล่านี้จะสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้ ทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ชลอริ้วรอยก่อนวัย ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวหนัง
กระเทียมเป็นสมุนไพรอีกชนิดที่อุดมไปด้วยซัลเฟอร์ อีกทั้งยังมีกรดไลโปอิก (Lipoic acid) และกรดอะมิโนทอรีน (Taurine) ตัวช่วยเสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจนที่ถูกทำลายได้อย่างดี อีกทั้งช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง อาการอักเสบต่าง ๆ รวมถึงอาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหารแก้ท้องอืด ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย เส้นเลือดเปราะ ขับลม ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ ขับประจำเดือนและพยาธิไส้เดือน ใช้บำบัดอาการไอ หวัด หลอดลมอักเสบ และยังสามารถช่วยรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น หิด กลากเกลื้อน เป็นต้น
วิตามินซี หาได้จากผลไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ส้ม ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระผสานกับพลังแห่งวิตามินซี มีส่วนช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย ปกป้องผิวจากมลพิษ และช่วยบำรุงเซลล์ผิวให้แข็งแรง มะนาว มีวิตามินซีสูงที่จะช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด และบรรเทาอาการปวดตามข้อได้ รวมถึงผลไม้อื่น ๆ อาทิ ฝรั่ง กีวี่ องุ่น และสตรอเบอร์รี่ ก็ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน อีกทั้งยังเสริมความแข็งแรงของเซลล์ผิวได้อย่างดี
เห็ดมีหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 30,000 ชนิด ทั้งที่กินได้และกินไม่ได้ ซึ่งเห็ดจะมีส่วนประกอบด้วยกัน 2 ส่วน คือ ก้านเห็ด (Stipe) และ ดอกเห็ด (Pileus) มีสรรพคุณและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก มีโปรตีนสูงปราศจากไขมันและมีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นสารอาหารที่สามารถช่วยในกระบวนการผลิตคอลลาเจนให้กับผิวได้ดี ซึ่งเห็ดเข็มทอง (Golden Mushroom) ช่วยรักษาโรคตับ โรคกระเพาะ และลำไส้อักเสบเรื้อรัง อีกทั้งยังยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้ดี เห็ดกระดุมหรือเห็ดแชมปิญอง (Champignon Mushroom) ช่วยป้องกันและต้านทานโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิง สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด ช่วยให้ร่างกายเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานโรคได้ดี เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum) มีฤทธิ์เสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง ยับยั้งเนื้องอก ลดน้ำตาลในเลือด รวมถึงป้องกันโรคภูมิแพ้ ลดความดันโลหิตในร่างกายได้อีกด้วย
เป็นที่รู้กันดีว่าสรรพคุณของ คอลลาเจนสกัดจากหนังปลาแซลมอน และเห็ดหลินจือแดง เป็นสุดยอดสารอาหารที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจนแก่ผิวหนังให้แลดูสุขภาพดีหากบริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่นำสารสกัดมารวมกันตอนนี้ในท้องตลาดมีหลากหลายแบรนด์ อาทิ “คอลลาเจน เซนโก” (Collagen Zengo) ซึ่งเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทยที่ผสมคอลลาเจนสกัดจากหนังปลาแซลมอนจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเห็ดหลินจือแดงแท้สกัดจากประเทศเกาหลี ที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเซลล์ผิวหนัง ลดการปวดตามข้อต่าง ๆ ชะลอการเกิดริ้วรอยของร่างกาย และมีส่วนผสมของเห็ดหลินจือแดงสกัด ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำคุณประโยชน์จากสารสกัดนั้นๆที่บริโภคเข้าไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ฉะนั้นแล้วคนที่รักผิวพรรณและอยากมีผิวสวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ต้องไม่ลืมที่จะศึกษาหาข้อมูลการดูแลผิวอย่างละเอียดลึกซึ้ง หันมาใส่ใจการดูแลผิว ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดเป็นเวลานาน ไม่สร้างความเครียดให้กับตัวเอง เพราะเป็นสิ่งที่กระตุ้นในร่างกายสร้างสารอนุมูลอิสระ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้เลือดสามารถสูบฉีดเข้าไปเลี้ยงระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย และเลือกรับประทาน ผัก และ ผลไม้ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่ได้รับการวิจัยโดยแพทย์และผ่านมาตรฐาน จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อให้มั่นใจได้ว่า สารอาหารเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบในภายหลังหากบริโภคติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ