ในยุคนี้การที่จะทำอะไรแต่ละอย่างก็ดูเร่งรีบไปหมด ไม่ว่าจะกิน จะเดินทาง ทำงาน และทุก ๆ อย่างที่ต้องรีบทำ ทำให้อาหารเสริมเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และกลายเป็นสิ้นค้าที่มีคนต้องการเยอะ ทำให้มีขายมากในตลาด ซึ่งมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คือทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายข้อเสียก็คือ ด้วยคาวมที่มีเยอะทำให้เราไม่รู้ว่าอาหารเสริมอันไหนเชื่อถือได้อันไหนเชื่อถือไม่ได้ นอกจากนี้ยังต้องเสี่ยงจากการโดนหลอกเพราะอาจมีแม่ค้าหัวใสบางคนแอบอ้างก็อบแบรนด์คนอื่นที่ผ่านคุณภาพมาแล้วเอาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพใส่ให้เราแทนทำให้เมื่อเราทานไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ด้วยเหตูนี้เราจึงอยากนำวิธีในการเลือกซื้ออาหารเสริมมาบอกกับทุกคน มาดูกันเลยว่าเราควรเลือกจากอะไรบ้าง
วิธีการเลือกซื้ออาหารเสริม
1.ดู อย. อย่างเดียว ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยเสมอไป
ถึงแม้จะมีข้อบังคับว่า อาหารเสริมที่ผลิตภายในประเทศ และนำเข้ามาจากประเทศนั้น จะต้องทำการขออนุญาตจาก อย. (สำนักคณะกรรมการอาหารและยา) เพื่อตรวจสอบ และประเมินถึงความปลอดภัยของส่วนประกอบเสียก่อน แต่ก็ไม่ใช่อาหารเสริมทุกชนิดจะมี อย. และในขณะนี้ก็พบการปลอมฉลาก อย. เยอะมาก ซึ่งเกิดจากการใช้ส่วนประกอบที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค การจะดูฉลาก อย. อย่างเดียวจึงไม่เพียงพอต่อการยืนยันความปลอดภัยของอาหารเสริมแล้ว ต้องมีการนำเลขอย. ไปตรวจสอบกับทางเว็บไซต์ของ อย. ด้วยว่า ตัวเลขที่ติดอยู่ที่ฉลาก เป็นผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกับที่ทำการขออนุญาตหรือไม่
2.ความจำเป็นในการทานอาหารเสริม
ก่อนที่จะมีการซื้ออาหารเสริมทุกครั้ง ผู้บริโภคต้องรู้จักตัวเองก่อน ว่าขาดสารอาหารประเภทใด หรือพบปัญหาใด ที่จำเป็นต้องได้รับอาหารเสริมเพิ่ม เช่น หากมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ก็อาจเลือกอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของไฟเบอร์ หรือ หากมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก ก็เลือกอาหารเสริมที่เกี่ยวกับแคลเซียม เป็นต้น แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการเลือกซื้ออาหารเสริมทุกครั้ง
3.ข้อควรระวัง
เพราะอาหารเสริม ก็คืออาหารเสริม ไม่ใช่อาหารหลักที่เราทานทั่วไปในปัจจุบันการรับมากเกินไป จึงไม่ดีต่อร่างกายในระยะยาว และอาหารเสริมบางชนิด ก็มีผลประทบต่อผู้บริโภคที่มีโรคประจำตัว ดังนั้น จึงควรอ่านฉลากให้ละเอียดทุกครั้ง โดยเฉพาะข้อควรระวัง หรือคำเตือน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมา
4.ราคา
อาหารเสริมบางยี่ห้อ ก็มีราคาแพงจนน่าตกใจ ทั้งที่ส่วนผสมและคุณภาพไม่ต่างจากยี่ห้ออื่นที่มีราคาต่ำกว่ากันมาก อย่าคิดไปเองว่า ยิ่งแพงจะยิ่งดี มิเช่นนั้นผู้บริโภคอาจจะถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการได้ พยายามเปรียบเทียบอาหารเสริมที่มีลักษณะคล้ายกัน เพื่อดูคุณภาพและราคาให้เหมาะสม และถ้าหากเปลี่ยนไปทานอาหารหลักให้ได้ตามที่ร่างกายต้องการแทนการใช้อาหารเสริม ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
5.การเลือกซื้ออาหารเสริม จากร้านค้าหรือแหล่งขายสินค้าที่น่าเชื่อถือ
ปัจจัยนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ต่างก็มีอาหารเสริมขายหมด เช่น ร้านชำเล็ก ๆ ร้านขายเครื่องสำอาง ร้านขายยา หรือการขายทางออนไลน์ ซึ่งแต่ละช่องทางก็จะมีโปรโมชั่นหรือวิธีจูงใจผู้บริโภคแตกต่างกันไป การเลือกซื้ออาหารเสริมที่ดีที่สุด คือการซื้อกับแหล่งขายที่น่าเชื่อถือ อย่างเช่น ร้านขายยาที่มีเภสัชกรอยู่ประจำ เพื่อที่จะได้สอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
6.ผลข้างเคียง
ถึงแม้ว่า การซื้ออาหารเสริมนั้น จะไม่สามารถทดลองได้ว่า เมื่อทานแล้วจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ และผู้ขายเองก็ต้องยืนยันว่าไม่มีอาการแพ้ หรือผลข้างเคียงแน่นอน แต่เมื่อได้ทดลองด้วยตัวเอง และพบปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่นการมีผื่นคัน หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ อาเจียน หายใจไม่ออก ก็ต้องหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นทันที แล้วรีบเดินทางไปพบแพทย์
การทานอาหารเสริมเป็นสิ่งที่ดีแต่หากทานอะไรที่น้อยไปก็ไม่ดี และอะไรที่มากไปก็ไม่ดี แต่สำหรับใครที่จำเป็นต้องทานอาหารเสริม ก็อย่าลืมพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ให้ดีก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและเพื่อให้ได้รับประสิทธิภาพจากอาหารเสริมที่ทานเข้าไปมากที่สุดนั่นเองค่ะ