ดาวเทียมหรือ Satellites เป็นเครื่องจักรชนิดหนึ่งที่มนุษย์ได้ประดิษฐ์และพัฒนาขึ้นโดยเลียนแบบดาวบริวารของโลก เพื่อนำไปใช้โคจรรอบดาวเคราะห์หรือดวงดาวต่าง ๆ เช่น โลก ดวงจันทร์ สำหรับดาวเทียมที่โคจรรอบโลกนั้นจะอาศัยแรงดึงดูดจากโลก เพื่อทำให้ดาวเทียมสามารถโคจรรอบโลกได้อย่างสมบูรณ์ ดาวเทียมมีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน เช่น
1. ด้านการสื่อสาร
ดาวเทียมที่ใช้ในการสื่อสารจำเป็นต้องมีการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากต้องเชื่อมโยงการสื่อสารของผู้ใช้งานบนโลกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการสื่อสารในที่นี้ไม่เพียงแค่การส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสัญญาณโทรทัศน์ วิทยุ การส่งผ่านข่าวสารอื่น ๆ อีกด้วย
2. ด้านการทหาร
ใช้ในการรายงานข่าวทางการทหาร การเคลื่อนไหวของกองทัพ ระบุตำแหน่งต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อกิจการทหาร ป้องกันการจารกรรม หรือเฝ้าระวังอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ขีปนาวุธ เป็นต้น
3. ด้านการอุตุนิยมวิทยา
ช่วยในการพยากรณ์อากาศของนักอุตุนิยมวิทยา โดยดาวเทียมจะติดตั้งกล้องซึ่งสามารถถ่ายภาพสภาพอากาศจากภายนอกโลกส่งกลับมายังโลกได้ ทำให้มองเห็นสภาพอากาศของโลกโดยรวม
4. ด้านทรัพยากรธรรมชาติ
ใช้สำรวจและสังเกตความเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรธรรมชาติของโลก ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรป่าไม้ ลักษณะแผ่นน้ำแข็ง รวมถึงอุณหภูมิของโลก นอกจากนี้ยังใช้ทำแผนที่และถ่ายภาพมุมกว้างเพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วย
5. ด้านการนำร่อง
ช่วยในการนำทางยานพาหนะต่าง ๆ เช่น เรือ เครื่องบิน และสามารถหาตำแหน่งต่าง ๆ บนพื้นโลกได้
6. ด้านวิทยาศาสตร์
ดาวเทียมจะช่วยในการสังเกตการณ์ของนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่จุดดำบนดวงอาทิตย์ไปจนถึงรังสีแกมมา
เมื่อได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับดาวเทียมแล้วทำให้รู้ว่า ดาวเทียมนั้นมีการทำงานอย่างหนักตลอดเวลา และแน่นอนว่าต้องมีการหมดอายุการใช้งานของดาวเทียมเหมือนเครื่องจักรอื่น ๆ เมื่อดาวเทียมหมดอายุนั้นสามารถถูกกำจัดได้ 2 วิธี ซึ่งการเลือกวิธีการจัดการกับดาวเทียมนั้นจะขึ้นอยู่กับความสูงที่ดาวเทียมนั้น ๆ โคจรอยู่ ถ้าดาวเทียมอยู่ในระยะใกล้ วิศวกรจะใช้เชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ของดาวเทียมทำให้มันเคลื่อนที่ช้าลง ส่งผลให้ดาวเทียมหลุดจากวงโคจร จากนั้นจะเกิดการเสียดสีในชั้นบรรยากาศ ทำให้ดาวเทียมเกิดการเผาไหม้เป็นฝุ่นผง ส่วนอีกวิธีหนึ่ง คือ ส่งดาวเทียมไปให้ไกลจากโลกมากที่สุด วิธีนี้จะใช้เชื้อเพลิงในปริมาณมาก เพื่อที่จะทำให้ดาวเทียมเคลื่อนที่ช้าลงและหลุดออกไปจากชั้นบรรยากาศ ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้กับดาวเทียมที่โคจรอยู่ในชั้นสูงๆ ซึ่งการส่งดาวเทียมออกไปให้ไกลจากโลก แม้จะใช้ปริมาณเชื้อเพลิงมาก แต่ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ก็ยังน้อยกว่าการส่งดาวเทียมกลับมาบนโลก