สวัสดีค่ะทุก ๆ คน หนูเป็นเด็กธรรมดา ๆ คนหนึ่งค่ะ ที่มีความฝัน มีเป้าหมาย และวิธีที่จะทำฝันให้เป็นจริงของหนู นั่นคือ หนูจะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่หนูจะคว้าความฝันนั้นมาด้วยตัวของหนูเอง หนูเชื่อเลยว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนในที่นี้มีความฝันของตัวเองเหมือนกัน หลาย ๆ คนอาจเจอสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองแล้ว แต่สำหรับบางคนก็อาจจะกำลังสับสนในตัวเองอยู่ วันนี้หนูเลยมาโครงการดี ๆ โครงการหนึ่งมานำเสนอเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่อาจจะกำลังมองหาความฝันของตัวเองอยู่ นั่นก็คือ โครงการ The Dream Explorers ทำ ก่อน ฝัน จากทรูปลูกปัญญา ซึ่งหนูคิดว่าเป็นโครงการดีมาก ๆ เลยทีเดียว เพราะนอกจากเราจะได้พบมิตรภาพที่ดี ๆ จากเพื่อนใหม่แล้ว เรายังได้ลองฝึกทำอาชีพที่เราสนใจจากพวกพี่ ๆ ที่มีประสบการณ์ทำงานอย่างช่ำชอง ได้ลองลงพื้นที่จริง และยังได้รับความรู้ใหม่ ๆ ที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกด้วย เป็นไงกันบ้าง ดูน่าสนใจกันบ้างแล้วใช่มั้ยหละ เพื่อน ๆ คงอยากรู้กันแล้วค่ายนี้จะสนุกสุดเหวี่ยงขนาดไหน ถ้าพร้อมกันแล้วตามหนูมากันได้เลยค่าา
ถ้าพูดถึง อาชีพนักประชาสัมพันธ์ หลาย ๆ คนอาจคิดว่าเป็นอาชีพที่สบาย ๆ นั่งหน้าล๊อบบี้ มีเสียงเพลงขึ้นว่า " ดึ่ง ดึง ดึ้ง " และนักประชาสัมพันธ์ก็จะพูดขึ้นว่า " เรียน ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน... " บอกเลยหนูก็เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน แต่พอได้ลองมาทำจริง ๆ แล้ว หนูบอกได้เลยว่าสิ่งที่คุณคิดนั้น ผิดสุด ๆ เลยค่ะ แต่หนูเชื่อเลยว่าถ้าเพื่อน ๆ ได้ลองมาสัมผัสอาชีพนักประชาสัมพันธ์โดยตรงเหมือนกับหนูและพวกเพื่อน ๆ แล้ว เพื่อน ๆ จะต้องร้องว่า ว้าว ว้าว ว้าว อย่างเเน่นอน เป็นไงหละ แค่เกริ่นก็ตื่นเต้นกันแล้วใช่มั้ย ถ้าพร้อมกันแล้ว เราไปอึ้ง และทึ่งกับอาชีพนี้พร้อมกันเลยดีกว่า ลุย!!!
วันแรกบอกเลยรถติดสุด ๆ และพวกเราก็ตื่นเต้นกันมาก ๆ เราได้ไปพบพี่เลี้ยงของเรา นั่นก็คือ ขุ่นแม่ชนก นั่นเองง
แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าขุ่นแม่ของพวกเราไม่ได้มีคนเดียวนะ ขุ่นแม่คนที่ 2 ของพวกเรา ก็คือ พี่ยุ้ยนั่นเองค่ะ
ในช่วงเช้าขุ่นเเม่ทั้ง 2 ให้การต้อนรับพวกเราอย่างดีมาก ๆ ขุ่นแม่ได้แนะนำองกรค์และพี่ ๆ ทีม PR ในพวกเรารู้จัก และได้อธิบายเกี่ยวกับลักษณะอาชีพ PR ว่าจริง ๆ แล้ว นักประชาสัมพันธ์ทำอะไร แรงบันดาลใจ ความก้าวหน้าของสายอาชีพ PR เงินเดือน และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งพอหนูฟังจบมุมมองในอาชีพนักประชาสัมพันธ์ของหนูก็เริ่มเปลี่ยนไป เพราะมันเกินกว่าการจินตนาการของหนูในครั้งแรกเอาไว้มาก ขุ่นแม่สอนพวกเราว่า การจะเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ดี เราต้องมี 4C ซึ่ง 4C ในที่นี้คือ
Caring ใส่ใจ และดูแล
Creative การสร้างสรรค์
Credible มีความรับผิดชอบและน่าเชื่อถือ
Courageous ความกล้าแสดงออก
และนี่คือคุณสมบัติที่ดีของการเป็นนักประชาสัมพันธ์นั่นเองค่ะ
ในช่วงบ่ายก่อนที่พวกเราจะไปออกนอกสถานที่กันเป็นครั้งแรก ขุ่นแม่ก็ให้พวกเราไปพักทานข้าวเพิ่มเรี่ยวแรงกันก่อน
เมื่อเติมพลังกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เริ่มลุยงานในช่วงบ่ายกันทันที โดยพี่ ๆ ได้พาพวกเราออกนอกสถานที่เพื่อไปเจอกับประสบการณ์จริงโดยตรง โดยพี่ ๆ แบ่งพวกเราออกเป็น 2 กลุ่ม และกลุ่มของหนูก็ได้มีโอกาสไปงานแถลงข่าว " TrueMove H Presents I AM NONT TANONT THE FIRST CONCERT " ซึ่งพวกเราก็ตื่นเต้นกันสุด ๆ เลยทีเดียว ในงานนี้นอกจากพวกเราจะได้พบกับพี่นนท์สุดหล่อแล้ว เรายังได้รับความรู้ใหม่ ๆ จาก พี่PR สายบันเทิงคนหนึ่งเพิ่มเข้ามาอีกด้วย พี่เค้าสอนพวกเราว่าการเป็น PR เราต้องอัพเดพข้อมูลข่าวสารตลอดเวลา เราต้องรู้ข้อมูลให้ลึกกว่าคนอื่น ๆ และต้องสามารถอธิบายสิ่งต่างๆให้คนอื่นฟังได้อย่างถูกต้อง แต่ในการจะบอกกล่าวอะไรไปนั้นเราควรคิดด้วยว่า สิ่งที่เราพูดนั้นจะส่งผลเสียกับองกรค์รึเปล่า เพราะนักประชาสัมพันธ์ที่ดีต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และอีกความรู้หนึ่งที่พวกเราได้รู้ นั่นก็คือ ในงานแถลงข่าวทุกครั้ง PR จะเป็นคนทำ Presskit เพื่อแจกให้กับพี่ ๆ สื่อมวลชน ซึ่งในนี้จะบอกถึงรายละเอียดทั้งหมดของงาน concept ของงาน ที่มาที่ไปอย่างไร งานจะมีเมื่อไหร่ เพื่อเป็นข้อมูลการทำข่าวให้กับพี่ ๆ สื่อมวลชนนั่นเองค่ะ
สำหรับงานการเป็นนักประชาสัมพันธ์ครั้งแรกนั้นสนุกจริง ๆ แต่ก็เหนื่อยสุด ๆ ด้วยเพราะงั้นหนูขอกลับไปพักเอาแรงเพื่อเริ่มลุยงานในวันต่อไปก่อนนะจ๊ะ
วันที่ 2 หนูมาเเต่เช้าเลยเพราะกลัวรถติด วันนี้พวกเราเริ่มงานกันตอน 7.30 ซึ่งมันเช้ามาก ๆ เลยหละ พวกเราก็จะง่วงกันนิดหน่อย ในตอนเช้าของวันนี้พี่ ๆ ให้พวกเราลองดู News Clipping ประจำวัน ซึ่ง PR จะต้องทำการแยกข่าวเป็นหมวดต่าง ๆ และจะต้องเรียงความสำคัญของข่าวจากสำคัญมากไปน้อยด้วย จากนั้น PR ก็นำข่าวที่จัดแยกหมวดหมู่อย่างเรียบร้อยแล้วอัพโหลดลงเว็บภายในองค์กร เพื่อให้พนักงานในบริษัทสามารถติดตามข่าวสารที่สำคัญ ๆ ในแต่ละวันได้ ซึ่งในความคิดของหนู หนูคิดว่ามันยากพอควรเลย เพราะต้องเป็นคนที่ละเอียดถี่ถ้วน และต้องมีระเบียบวินัยในตนเองมาก ๆ ด้วย เนื่องจากจะต้องตื่นมาทำงานงานแต่เช้าในทุก ๆ วัน
หลังจากนั้นพี่ ๆ ก็พาเราไปลองดูวิธีทำงานต่าง ๆ ของ PR อาทิ การโพสต์ข่าวสารลงเว็บในแต่ละวัน การพิมพ์สคริปท์ข่าวเพื่อที่จะเอาใช้พูดในประกอบข่าว เป็นต้น
ในตอนบ่ายพวกเราก็ได้ออกนอกสถานที่กันอีกแล้ว พี่ ๆ พาพวกเราไปศึกษาการทำ TV Scoop ในกิจกรรม TrueCoffee Deaf Barista Workshop ที่ TureCoffee สาขารัตนโกสินทร์ พี่ ๆ บอกพวกเราว่า PR ก็สามารถแนะหรือแสดงความคิดเห็นกับนักข่าวได้ เช่น อยากให้เห็นคำว่า True เป็นต้น นี่ก็ถือเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน
หลังจากจบงานนี้พวกเราก็กลับมาช่วยพี่ ๆ เตรียมงานสำหรับพิธีเปิดอบรมนักข่าวสายฟ้าน้อย ปี2561 กันต่อ เพื่อที่พวกเราจะได้รู้งานของ PR ตั้งแต่เริ่มต้นจัดงานไปจนถึงวันงานจริงกันเลยทีเดียว
สำหรับการฝึกงานวันที่ 2 ของพวกเราก็จบลงไปด้วยดี เย้!!!
พวกเราก็มากันแต่เช้าเหมือนเดิม วันนี้พวกเรามาฝึกงานในพิธีเปิดอบรมนักข่าวสายฟ้าน้อย ปี2561 งานแรกของพวกเราในวันนี้คือ ช่วยแจกของที่ระลึกและลงทะเบียนการเข้างานให้พี่ ๆ นักศึกษา ซึ่งนี่ก็เป็นหน้าที่หนึ่งของ PR เหมือนกัน
จากนั้นพวกเราก็ได้ไปเข้าไปฟังบรรยายพิธีเปิดพร้อมกับพี่ ๆ นักศึกษาข้างในอีกด้วย หลังจากนั้นตอนประมาณ 10.00 พี่ ๆ พาเราเข้านั่งไปฟังพิธีเปิดของโครงการ One Young World ซึ่งเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่มากในระดับโลก ที่นั่นพวกเราไปพบกับ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งบริษัทTrue นั่นเอง บอกได้คำเดียวเลยว่าพวกเราตื่นเต้นกันมาก ๆ หนูคิดว่าท่านเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีมาก ๆ เลย เมื่อฟังจบพวกเราก็มีโอกาสได้ถ่ายรูปกับ คุณศุภชัย ด้วยย ทุกคนยิ้มแก้มปริกันเลยทีเดียวเพราะโอกาสดี ๆ แบบนี้นั้นหายากมากก
หลังจากจบช่วงเช้าที่แสนหนักหน่วงกันไปแล้ว ในช่วงบ่ายนั้นได้มีงานกะทันหันเข้ามานั่นก็คือ งานเปิดตัวทีม E-Sport ของ True เนื่องจากเป็นงานกะทันหันทีมนักข่าวจึงมีแค่ของ True
หลังจากจบงานนี้แล้วพี่ ๆ ก็ได้พาเราไปฝึกลงเสียงข่าว ที่ห้องตัดต่อ Audiovisual Studio ซึ่งหนูคิดว่ามันเป็นอะไรที่สนุก ๆ มาก แต่มันก็แฝงความยากเอาไว้ด้วย โดยในการฝึกลงเสียงในครั้งนี้พวกเราได้รับคำแนะนำดี ๆ จากพี่ง้วง ที่คอยบอกข้อผิดพลาดในเรื่องต่าง ๆ และข้อคิดดี ๆ ให้กับพวกเรา ซึ่งหนูก็รู้สึกขอบคุณพี่ง้วงมาก ๆ เลยย
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการฝึกงานแล้ว มันก็จะรู้สึกใจหายหน่อย ๆ หนูรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเร็วมาก ๆ หนูไม่อยากให้มันจบเลยย วันสุดท้ายพวกเราก็ตื่นแต่เช้ามาดูการทำ News Clipping ข่าวประจำวันกันเหมือนเดิม หลังจากนั้นพี่ ๆ พาพวกเราไปมอบกระเช้าครบรอบ 32 ปีของกรุงเทพธุรกิจ เพราะหน้าที่อีกอย่างหนึ่งของ PR คือการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนักข่าว
หลังจากนั้นในช่วงบ่ายพวกเราก็มาคอยต้อนรับการเข้ามาเยี่ยมชม บริษัท True ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยลาดกระบัง เมื่อต้อนรับเสร็จ ขุ่นแม่ชนกก็ขึ้นมามอบของที่ระลึกให้กับพวกเรา
และก็จบไปแล้วกับวันสุดท้ายของวันฝึกงานของพวกเราทั้งเหนื่อยและสนุกจริง ๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ยังไม่อยากให้จบเลยหละ
1. ความรู้ด้านภาษา 2. มีวิธีคิด จับประเด็น และวิเคราะห์ข่าวได้ดี 3. มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี 4. เป็นคนกล้าแสดงออก 5. ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ และตื่นตัวตลอดเวลา 6. ต้องมีความรับผิดชอบและมีระเบียบวินัยในตนเอง
1. ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับงานที่จะเข้ามาอย่างกระทันหันอยู่เสมอ
2. ได้ออกไปทำงานนอนสถานที่ค่อนข้างบ่อย เพราะฉะนั้น เราจึงได้พบปะผู้คนค่อยข้างเยอะ
" เราไม่ต้องสนว่าเราจะเอาจริงในเวลาไหน เพราะทุกครั้งที่เราได้ลองทำให้ถือว่าเราเอาจริงเสมอ "
จบกันไปแล้วนะกับการฝึกอาชีพนักประชาสัมพันธ์ของพวกเรา เห็นกันแล้วใช่มั้ยว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด หลังจากจบการฝึกงานในครั้งนี้ หนูได้รู้เลยว่านักประชาสัมพันธ์ คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทุกอย่างจริง ๆ หนูรู้สึกนับถือพวกพี่ ๆ เค้ามาก ๆ จริง ๆ
และสุดท้ายท้ายสุดนี้ หนูอยากจะขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่ได้มอบประสบการณ์ที่ดี ๆ ให้กับหนู หนูสัญญาว่าจะนำสิ่งที่ได้จากพี่ ๆ มาปรับให้กับตัวเองทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างแน่นอนค่ะ