ปัญหารังแคบนหนังศีรษะส่งผลกระทบอันยิ่งใหญ่ต่ออัตตาและความมั่นใจของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะสาวสวยอย่างเรา ๆ สาเหตุของการเกิดรังแคบนหนังศีรษะอาจเกิดได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นหนังศีรษะแห้งหรือมันเกินไป อาจเกิดจากการแพ้สารเคมีในแชมพูสระผม ไปจนถึงเชื้อราบนหนังศีรษะ แม้ว่าใครหลายคนจะเพียรหาสารพัดแชมพูกำจัดรังแคหลากหลายยี่ห้อ ก็ตอบโจทย์รังแคไม่หายขาดเสียที มาค่ะสาว ๆ บางทีอาจได้เวลาหันกลับมาใช้ตัวช่วยดี ๆ จากธรรมชาติเพื่อรับมือปัญหารังแคบนหนังศีรษะ นำมาหมักผม หรือใช้ผสมกับแชมพูที่ใช้เป็นประจำก็ได้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ทีทรีออยล์มีสรรพคุณเป็นยาปฏิชีวนะและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบตามธรรมชาติ จึงอาจช่วยลดปัญหาหนังศีรษะที่ทำให้เกิดรังแคได้ ผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า ทีทรีออยล์สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราที่เป็นสาเหตุของทั้งโรคผิวหนังอักเสบและรังแคบนหนังศีรษะ โดยทำการทดลองกับอาสาสมัคร 126 คนให้ใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของทีทรีออยล์ 55 กับแชมพูธรรมดา พบว่า อาสาสมัครที่ใช้แชมพูผสมทีทรีออยล์ 41% มีความมันบนหนังศีรษะและคันน้อยลง
แม้ว่าทีทรีออยล์จะมีคุณสมบัติในการยับยั้งแบคทีเรีย แต่ก็อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังได้ ดังนั้นก่อนใช้สัมผัสผิวหนังโดยตรง ควรผสมกับน้ำมันมะพร้าวสัก 2-3 หยดก่อน แล้วค่อยชะโลมลงบนหนังศีรษะ หรือผิวหนัง
น้ำมันมะพร้าวจะช่วยเข้ากำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ทำให้ยับยั้งการเกิดรังแคบนหนังศีรษะได้ และยังมีสรรพคุณในการรักษาอาการคันที่เกิดจากโรคผิวหนังอักเสบผื่นคันได้ด้วย
ว่านหางจระเข้เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิว ลดการระคายเคืองผิวจากการถูกเผาไหม้ได้เป็นอย่างดี แล้วยังมีการวิจัยพบว่า ว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณด้านการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราที่เป็นสาเหตุของผมร่วงและรังแคบนหนังศีรษะได้ด้วย
ความเครียดเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงอาจเป็นตัวการสำคัญที่ส่งผลทางอ้อมให้เกิดปัญหารังแคบนหนังศีรษะได้เช่นกัน เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะภาวะเครียดสะสมเป็นเวลานาน ๆ จะส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมไปถึงระบบภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโรคบางชนิดลดลง ส่งผลต่อสภาพผิวทำให้เกิดรังแคในที่สุด ดังนั้นควรรีบจัดการกับความเครียดก่อนที่ปัญหาสุขภาพจะลุกลามบานปลายใหญ่โตไปมากกว่าแค่รังแคบนหนังศีรษะ
หลายคนอาจทราบดีว่าน้ำส้มสายชูกลั่นจากแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย และยังช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วทั้งบนผิวหน้าและหนังศีรษะ เพราะมีค่า ph ที่เป็นกลาง ทำให้สภาพผิวมีความสมดุลลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา และยับยั้งการเกิดรังแค
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ใดออกมารับรองว่า น้ำส้มสายชูกลั่นจากแอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยหยุดปัญหารังแคได้ มีแค่คำยืนยันจากผู้ที่เคยเป็นรังแคที่ใช้แล้วหายเท่านั้น ผลการวิจัยที่ปรากฎมีเพียงการยืนยันว่า น้ำส้มสานชูกลั่นจากแอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถยับยั้งการเจริญโตของเชื้อราได้จริง หากสาว ๆ อยากทดลองใช้ ควรนำน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2-3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับแชมพูใช้สระผม หรือผสมลงในเอสเซนเชียลออยล์ก่อน แล้วค่อยฉีดพรมให้ทั่วหนังศีรษะก็ได้
ข้อมูลนี้เชื่อถือได้ว่ายาแอสไพรินสามารถใช้ลดรังแคได้จริงแท้แน่นอน เพราะหากอ่านฉลากแชมพูขจัดรังแคที่มีวางขายตามท้องตลาด หลายคนจะพบว่ามี กรดซาลิไซลิก เป็นตัวยาสำคัญที่ใช้ต้านอาการผิวหนังอักเสบ ลดการเกิดขุยของหนังศีรษะ และกรดซาลิไซลิกนี้เองก็มีในยาแก้ปวดอย่างแอสไพรินเช่นกัน ลองผสมยาแอสไพรินบด 2 เม็ดแล้วผสมกับแชมพูแล้วนำมาสระผม เท่านี้ก็ได้แชมพูขจัดรังแคแล้ว
โอเมก้า 3 เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญต่อการบำรุงผิว ช่วยในการควบคุมการผลิตน้ำมันในผิวและป้องกันผิวแห้งกร้าน ช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น และป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ การขาดโอเมก้า 3 จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้ผิวแห้ง ผมแห้ง และเกิดรังแคบนหนังศีรษะได้ ปัญหารังแคอาจแก้ได้ง่ายด้วยการกินปลาทะเลให้มากขึ้น เพิ่มไขมันดีให้ร่างกาย หรือกินน้ำมันตับปลาเสริมก็ได้
โพรไบโอติกคือแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายชนิดหนึ่ง ที่มีส่วนช่วยต่อต้านการเกิดอาการแพ้ ช่วยลดคลอเรสเตอรอล ช่วยควบคุมน้ำหนัก และยังอาจช่วยปรับสภาพระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างเป็นระบบ ซึ่งสามารถทำให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อจากเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดรังแคบนหนังศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการวิจัยพบว่า คน 60 คนที่กินอาหารที่มีโพรไบโอติกนาน 56 วัน สามารถลดการเกิดรังแคบนหนังศีรษะได้ โพรไบโอติกพบได้ในอาหารหมักดองหลายชนิด เช่น ชาหมักคอมบูชา กิมจิ นัทโตะ ถั่วเหลืองหมักเทมเป้ และโยเกิร์ตบางยี่ห้อ เป็นต้น
เป็นวัตถุดิบสารพัดประโยชน์ที่ทุกบ้านควรมีติดไว้ เพราะนอกจากใช้ทำขนม หมักเนื้อให้นุ่มแล้ว ยังใช้กับผิวและหนังศีรษะได้ด้วย เพราะเชื่อว่าเบคกิ้งโซดามีคุณสมบัติช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยกำจัดหนังศีรษะที่ตายแล้ว และช่วยลดอาการคันได้ด้วย เพราะมีคุณสมบัติต่อด้านการเจริญเติบโตของเชื้อรา มีการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างโดยให้ใช้เบคกิ้งโซดานาน 7 วัน ผลปรากฎว่า ลดการเจริญเติบโตของเชื้อราได้ถึง 79% และยังมีการทดลองกับกลุ่มผู้มีอาการโรคสะเก็ดเงิน 31 คน ให้ใช้เบคกิ้งโซดาในการรักษาพบว่า ผู้ป่วยมีอาการคันและการระคายเคืองลดลงภายใน 3 สัปดาห์
วิธีการใช้เบคกิ้งโซดาเพื่อรักษารังแค ทำได้ง่าย ๆ โดยชะโลมเบคกิ้งโซดาลงบนผมที่เปียก แล้วนวดหนังศีรษะให้ทั่ว ทิ้งไว้ 1-2 นาที แล้วสระซ้ำด้วยแชมพูที่ใช้อยู่ ล้างน้ำให้สะอาด เท่านี้ก็จะเห็นความแตกต่าง