เบื่อไหมที่ต้องรีบลุกจากเตียงแต่เช้าเพื่อแต่งหน้าก่อนไปทำงาน ไม่กล้าออกจากบ้านหน้าสดเพราะกลัวเพื่อทั้งออฟฟิศสะพรึงในความสวยของเรา! แต่รู้รึเปล่าหยุดแต่งหน้าบ้างก็มีข้อดีเหมือนกันนะ

สำหรับสาว ๆ ที่เบื่อหน่ายกับขั้นตอนการแต่งหน้า หรือขี้เกียจวิ่งตามเทรนด์แต่งหน้าให้ทันสมัยตลอดเวลา อยากออกจากบ้านแบบหน้าสดบ้างอะไรบ้าง ที่นี่มี 7 ความจริงที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราหยุดแต่งหน้ามาฝาก เพื่อเป็นข้อมูลให้สาว ๆตัดสินใจ เพราะการหยุดแต่งหน้าบ้าง อาจให้ผลดีต่อเรามากกว่าที่คิด

1. อาจขาดความมั่นใจ (แต่ก็แค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้น)

แหม่ แน่นอนอยู่แล้ว จากที่หน้าแน่น จัดเต็มทุกวัน มั่นใจในความเป๊ะ พอออกจากบ้านหน้าสดเป็นครั้งแรกก็ต้องไม่เซลฟ์เป็นธรรมดา คอยกังวลว่าจะมีใครทักว่าหน้าโทรมไปไหม หน้าซีดปากซีดเหมือนคนป่วยรึเปล่า ? หยุดคิดในทางลบไปเลยค่ะ เพราะในความเป็นจริงอาจไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเราไม่ได้แต่งหน้าเลยก็ได้ ยิ่งถ้าเราดูแลบำรุงผิวหน้าดี ๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เผลอ ๆ อาจมีคนชมว่าสวยกว่าเดิมก็ได้ใครจะไปรู้ จริงป่ะ ที่สำคัญไม่ต้องรีบตื่นเช้า มีเวลานอนกลิ้งบนเตียงเพิ่มขึ้นอีกเป็นชั่วโมง ดีจะตาย

2. เครียดน้อยลง

ยอมรับมาเถอะว่าแต่ละขั้นตอนของการแต่งหน้า ต้องอาศัยความพิถีพิถันและยุ่งยากสุด ๆ พอแต่งหน้าเสร็จก็ต้องคอยกังวลต่อไปอีก ว่าสารพัดสิ่งที่ประโคมบนใบหน้ายังอยู่ดีไหม ขนตายังเด้งอยู่ไหม สีลิปสติกตกร่องไหม ได้เวลาเติมแป้งรึยัง โอ๊ย กังวลไปสารพัด แต่พอไม่ต้องแต่งหน้าก็ไม่จำเป็นต้องกังวลกับสารพัดปัญหาจุกจิกพวกนี้ มีเวลาทุ่มเทใส่ใจการเรียนหรือการทำงานสำคัญ ๆ มากขึ้น ผลการเรียนดี การทำงานเด่น เจ้านายปลื้ม โบนัสก้อนโตตอนปลายปีก็อยู่ไม่ไกล พูดเลย !

3. ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น

การแต่งหน้าให้ดูปัง ปกปิดเรียบเนียน แน่นอนว่าต้องใช้ทั้งรองพื้น คอนซีลเลอร์ และบรอนซ์เซอร์ ที่ใช้คอนทัวร์ช่วยเหลาหน้าให้เรียว ล้วนเป็นเครื่องสำอางที่ถูกฉาบบนผิวหน้าหลายชั้น แม้กลับมาบ้านเราจะใช้คลีนซิ่งอย่างดี บรรจงลบเครื่องสำอางทุกวัน แต่ก็ยังคงมีอนูเล็ก ๆ หลงเหลืออยู่ และเข้าไปอุดตันรูขุมขน เป็นสาเหตุของการเกิดสิวไปอีก ลองให้ผิวหน้าได้พักหายใจจากการประโคมสารพัดเครื่องสำอางบ้าง บางทีคุณอาจพบว่าผิวหน้าได้รับการเคลียร์ รูขุมขนไม่อุดตัน ผิวหน้าก็ดูกระจ่างใสขึ้นใน 3 วัน

4. ดูหน้าเด็กลง

เมคอัพอาจเปลี่ยนลุคให้คุณดูเป็นผู้ใหญ่ เป็นสาวสตรองที่ดูมั่นใจในตัวเอง แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามที่เราหันมาใช้วิธีเผยผิวหน้าสุขภาพดี แก้มมีเลือดฝาด เดินหน้าสดออกจากบ้าน จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ลุคหน้าใสไร้เครื่องสำอางจะช่วยให้ความงามตามธรรมของคุณโดดเด่นขึ้น ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย สวยได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วยนะ

5. ใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้ามากขึ้น

ตอนใช้เมคอัพหน้าจะเยิน สิวจะตรึมอย่างไรก็หมดกังวล เพราะมีเครื่องสำอางช่วยพรางไว้ แต่ก็นั่นแหละ ยิ่งแต่งหน้าปัญหาสิวก็ดูเหมือนจะไม่จบไม่สิ้น สิ่งแรกที่สาว ๆ ควรทำคือหยุดทำร้ายผิวด้วยเครื่องสำอาง แล้วหันมารักษาผิวหน้าอย่างจริงจัง ใส่ใจในการเลือกเซรั่มบำรุงผิวดี ๆ หามาส์กหน้าสูตรโดนใจ และครีมกันแดดเริ่ด ๆ มาใช้ เพื่อให้ผิวหน้าเนียนใส ไกลสิว สุขภาพดี โชว์หน้าสดอย่างสบายใจ ดูอ่อนกว่าวัยไปยาว ๆ เลยค่ะ

6. มีเวลาทำผมทรงเก๋

ไม่ต้องแต่งหน้าไปทำงาน ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องสนใจรูปลักษณ์ภายนอกใด ๆ เลยถูกไหมคะซิส เมื่อไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเขียนคิ้ว ทาปาก นอกจากจะมีเวลานอนนานขึ้นแล้ว ยังเอาเวลาที่เหลือมาทำผมทรงเก๋ ๆ ได้แม้ในวันที่ตื่นสาย จะเซ็ททรง ตีโป่ง ถักเปีย หรือทรงไหน ๆ ที่เคยอยากทำแต่ไม่มีเวลาพอ เลิกแต่งหน้าแล้วมาลงมือเซ็ทผมทรงเก๋ เท่านี้เมคอัพก็ไม่จำเป็น

7. แล้วคุณจะพบว่าแต่งหน้าน้อย ๆ หรือไม่แต่งหน้าเลย คุณก็ดูดีได้

หากเราชินกับการไม่แต่งหน้าแล้ว เมื่อกลับมาแต่งหน้าอีกครั้ง คุณอาจรู้สึกอึดอัด หนักหน้า ไม่สบายผิว ทำให้การแต่งหน้าในครั้งต่อ ๆ ไปแทนที่จะทารองพื้นแน่น ๆ เหมือนเมื่อก่อน คุณอาจอยากเปลี่ยนมาลงแค่คอนซีลเลอร์ปกปิดเฉพาะจุด หรือแทนการแต่งตา Smoky จัดเต็มด้วยการปัดมาสคาร่าบาง ๆ แต่งหน้าเบา ๆ ได้ลุคสดใส ดูสวยสมวัยอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ

นับข้อดีของการไม่แต่งหน้าได้ 7 ข้อแล้วบอกเลยว่าคุ้มค่ามาก หันมาใส่ใจกับการบำรุงและดูแลผิวหน้าให้มากขึ้น เท่านี้หน้าสดต่อหน้าเพื่อนก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป หยุดแต่งหน้า ให้ผิวได้พักผ่อนบ้างนะคะซิส