มาความเข้าใจในรถยนต์ระบบไฮบริดก่อนที่จะตัดสินใจซื้อกันเถอะ

             การที่เราจะเลือกซื้อสักคันแน่นอนว่าจะต้องใช้คิดไตร่ตรองให้ละเอียดว่าถ้าหากเราซื้อมาเราจะสามารถบริหารเงินได้ไหม ค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์เราพร้อมที่จะจ่ายหรือไม่ ซึ่งต้องบอกเลยว่ายิ่งเดี๋ยวมีรถยนต์มากมายผลิตออกมาหลายรุ่นให้เราได้เลือก แต่เป็นที่รู้กันดีว่ารถประหยัดน้ำมันนั้นกำลังได้รับความนิยมสูงมากพอสมควรเพราะไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ระบบไฮบริดหรือระบบอีโคคาร์ ซึ่งระบบสองระบบนี้ก็มีการทำงานที่แตกต่างกันออกไป แต่ในปี2018นี้รถยนต์ระบบไฮบริดนั้นถือว่ากำลังได้รับความนิยมในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเพราะรถไฮบริด เป็นรถที่มีทั้งเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันและระบบมอเตอร์ไฟฟ้ามาขับเคลื่อนผสมผสานกัน และรูปแบบที่นิยมใช้กันในรถยนต์ไฮบริดปัจจุบัน ก็คือ แบบ Power-split หรือ ซีรีส์-พาราลเรล โดยในช่วงปกติที่ต้องใช้ความเร็วรอบสูงๆ ก็จะใช้ระบบเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน ส่วนในช่วงที่เราใช้ความเร็วรอบต่ำๆ อย่างวิ่งในเมือง ช่วงรถติดรถก็จะปรับให้ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าโดยดึงเอาพลังงานออกมาจากแบตเตอรี่ทำงานแทน หรือในช่วงเร่งแซงก็จะใช้ทั้งสองตัวประสานพลังร่วมกัน และด้วยเหตุที่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาช่วยนี่แหละ ทำให้รถไฮบริดเป็นรถประหยัดน้ำมันมากกว่ารถยนต์ทั่วไป และในวันนี้เราคุณมาดูเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของรถไฮบิรดกันดีกว่าเพื่อที่จะทำให้คุณตัดสินใจที่เลือกซื้อรถได้ง่ายยิ่งขึ้น

ข้อดีของการขับรถไฮบริด

1. ช่วยให้การขับรถได้อย่างถนอมเครื่องยนต์และเต็มสมรรถนะมากขึ้น เพราะว่าเครื่องยนต์จะทำงานได้ดีที่สุด เวลาเราค่อย ๆ เพิ่มความเร็วและค่อย ๆ เบรค ทำให้ในระยะยาว
2. เหมาะกับการขับในเมืองที่สุด ระบบไฮบริดจะชาร์จไฟเมื่อเวลาเราขับช้าและเบรค ซึ่งสภาพการขับรถในเมืองส่วนใหญ่ก็คือ ขับช้าและเบรคนั่นเอง
3. รถไฮบริดจะไม่ได้ส่งเสียงดังเวลาสตาร์ทรถเหมือนรถรุ่นเก่า ทำให้บรรยากาศการขับรถค่อนข้างเงียบ เหมาะกับการขับรถอย่างสบาย ๆ และราบรื่น
4. รถไฮบริดมีระบบควบคุมอุณหภูมิ เครื่องยนต์รถจึงอุ่นอยู่ตลอด จึงช่วยให้สตาร์ตรถได้ง่ายและเป็นการรักษาเครื่องยนต์อีกด้วย
5. เมื่อเทียบกับรถธรรมดาแล้ว รถไฮบริดทนทานกว่า มีอายุการใช้งานที่นานกว่า
6. รถไฮบิรดนั้นช่วยในเรื่องการควบคุมดูแลการปล่อยมลพิษต่ออากาศอีกด้วย

ข้อเสียของรถไฮบริด

1. ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง  ความซับซ้อนของระบบการทำงานแบบเครื่องยนต์คู่ในรถไฮบริดส่นวใหญ่ทำให้ค่าซ่อมรถเองก็แพงไปด้วย ไม่ใช่ช่างซ่อมรถทุกคนที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อซ่อมรถประหยัดพลังงานนี้ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมจึงย่อมสูงกว่าเครื่องยนต์มาตรฐานทั่วไป นอกจากนี้ เนื่องจากน้ำหนักของรถไฮบริด คุณคาดได้เลยว่าคุณจะได้เปลี่ยนยางและผ้าเบรกบ่อยแน่ๆ
2. ราคาน่าตกใจ  ความแตกต่างในเรื่องราคาของรถไฮบริดเมื่อเทียบกับรถยนต์ใช้น้ำมันทั่วไปต่างกันอย่างเห็นได้ชัด หลายๆ ยี่ห้อแพงกว่ารถใช้น้ำมันหลายแสนเลยทีเดียว ผู้บริโภคจำนวนมากจึงไม่กำลังพอที่จะซื้อรถไฮบริดมาใช้ ไม่ว่ามันจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่อปีได้มากเพียงใดก็ตาม
3. วิ่งได้ช้าลง  ยานยนต์พวกนี้สร้างขึ้นมาเพื่อความประหยัด ไม่ใช่ความเร็ว เครื่องยนต์ใช้น้ำมันซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของรถนั้น เล็กกว่าเครื่องยนต์ของรถทั่วไปมาก หากคุณต้องการเพิ่มความเร็วเกินกว่าที่เครื่องยนต์แรกสามารถให้ได้ เครื่องยนต์ไฟฟ้าก็จะทำงานเพื่อช่วยเร่งความเร็ว อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือจากเครื่องยนต์ไฟฟ้านี้ทำให้ความสามารถในการขับเคลื่อนโดยรวมของรถต่ำกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันทั่วไป
4. บังคับรถได้ยาก  การควบคุมรถไฮบริดไม่ง่ายเท่ากับรถใช้น้ำมันทั่วไป สาเหตุมาจากเรื่องของน้ำหนัก น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหมายถึงการเสียประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน ดังนั้น โรงงานผลิตส่วนใหญ่จึงพยายามลดน้ำหนักของรถลงเมื่อทำได้ รถไฮบริดมีแกนเหล็กและตัวยึดโครงรถน้อยกว่า อีกทั้งยังใช้ส่วนประกอบต่างๆ ที่มีน้ำหนักเบากว่าที่ใช้ในรถที่ให้ความสำคัญกับเรื่องประสิทธิภาพของรถ