แม้โรคหลอดลมอักเสบ จะไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรง แต่ก็เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กเล็ก เนื่องจากเด็กส่วนมากมักเป็นโรคนี้หลังจากเป็นไข้หวัดเป็นเวลานาน หากลูกน้อยไม่ได้รับการดูแลหรือรักษาอย่างถูกต้อง โรคหลอดลมอักเสบอาจลุกลามกลายเป็นโรคปอดอักเสบที่มีอาการรุนแรงกว่าได้
1. โรคหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลัน (Acute Bronchitis) มีอาการไม่เกิน 3 สัปดาห์ ส่วนมากมักเป็นหลังไข้หวัดที่ไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลอย่างถูกต้อง ทำให้การติดเชื้อลุกลามไปถึงหลอดลม หากไอมีเสมหะมากกว่า 1 สัปดาห์ ให้สันนิษฐานว่าเป็นโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
2. โรคหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง (Chronic Bronchitis) มีอาการมากกว่า 3 สัปดาห์ อาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ โรคหืด ฯลฯ ที่มีอาการไอมีเสมหะมากกว่า 3 เดือน/ปี เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี โรคหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรังนี้ เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจทำให้อาการของลูกน้อยแย่ลงได้
1. เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสโรคไข้หวัดใหญ่ ไวรัสโรคหัด ไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ฯลฯ ซึ่งสาเหตุจากไวรัสนี้พบได้บ่อยที่สุด
2. เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อาทิ ไมโคพลาสมา นิวโมคอคคัส และคลามัยเดีย ฯลฯ
3. เกิดจากการแพ้ หรือการระคายเคืองต่อสารบางอย่างที่สูดดมจนทำให้หลอดลมเกิดการอักเสบ เช่น ควันบุหรี่ เกสรดอกไม้ ฝุ่น เป็นต้น
ส่วนใหญ่อาการจะเหมือนกับไข้หวัด ดังนี้
1. น้ำมูกไหล
2. มีเสมหะสีเหลืองหรือเขียว
3. เด็กหายใจมีเสียงดังวี้ด ๆ
4. หอบหรือหายใจดังผิดปกติ
5. ไอเรื้อรังมากกว่า 7 วัน
โรคหลอดลมอักเสบ ไม่มียารักษาเฉพาะเจาะจง แต่เป็นการรักษาตามอาการ คุณพ่อคุณแม่ควรปฏิบัติดังนี้
หลังจากวินิจฉัยโรค คุณหมออาจใช้วิธีพ่นยา หรือให้กินยาละลายเสมหะ ยาขยายหลอดลม และยาจำพวกฆ่าเชื้อ ตามลักษณะอาการและความรุนแรงของโรคที่ลูกน้อยเป็นอยู่
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายของลูกน้อยฟื้นฟูเยียวยาได้ดีที่สุด
การดื่มหรืออาบน้ำเย็น อาจทำให้หลอดลมระคายเคืองได้ ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่อากาศเย็น และให้ลูกน้อยดื่มน้ำอุ่น และอาบน้ำอุ่นแทน เพื่อรักษาความอบอุ่นของร่างกายลูกให้คงที่
หากลูกน้อยมีน้ำมูกจนทำให้หายใจไม่ออก สามารถใช้น้ำเกลือล้างจมูก เพื่อเอาเมือกน้ำมูกออกจากจมูก ให้ลูกหายใจสะดวกขึ้นได้
การให้ลูกอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยให้ปอดของลูกได้รับอากาศดี ๆ อย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว และช่วยบรรเทาอาการของโรคให้ทุเลาลงได้