เมื่อแม่ท้องอยากกินทุเรียน ข้อสงสัยที่เกิดขึ้นตามมาคือ ทุเรียนที่กินเข้าไปจะส่งผลกระทบอะไรต่อลูกน้อยหรือไม่ บ้างก็ว่ากินได้เพราะทุเรียนมีวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อลูกน้อยมากมาย แต่บ้างก็ว่าไม่ควรกินเพราะจะส่งผลเสียต่อเด็กมากกว่า เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าที่จริงแล้วทุเรียนมีฤทธิ์อย่างไร และจะส่งผลอะไรต่อร่างกายแม่และลูกในครรภ์ได้บ้าง
ทุเรียน เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานมาก ทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ มากมาย อาทิ โฟเลต คาร์โบไฮเดรต เส้นใย ไขมัน โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี12 วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และสังกะสี
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยระบุว่า ทุเรียนพันธุ์หมอนทองมีสารโพลีฟีนอล (Pholyphenols) ที่ช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันโภชนาการกล่าวว่า โฟเลตเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ท้อง เพราะโฟเลตช่วยยับยั้งภาวะความพิการของลูกน้อยในครรภ์ได้ ทำให้เซลล์ตัวอ่อนเจริญเติบโตเป็นปกติ ลดภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ หรือกระดูกสันหลังไม่ปิดได้
ปริมาณโฟเลตที่ร่างกายต้องการต่อวัน คือ 300 ไมโครกรัม เทียบเท่ากับการกินทุเรียน 2 เม็ด หรือกล้วยไข่ 2 ลูก หรือลิ้นจี่ 8 ผล หรือขนุน 8 ชิ้น
สำหรับแม่ท้องที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวและภาวะเสี่ยงใด ๆ สามารถกินทุเรียนได้ 1-2 เม็ดต่อวัน ทั้งนี้อาหารที่กินในวันนั้นควรจัดให้มีความสมดุลกันด้วย เพราะทุเรียนเป็นผลไม้ธาตุร้อน ในมื้ออาหารแต่ละมื้อจึงไม่ควรมีอาหารธาตุร้อนเยอะเกินไป
1. มีเส้นใย ช่วยเรื่องการขับถ่าย
2. โฟเลตในทุเรียน มีส่วนช่วยหยุดภาวะความพิการของทารก ลดภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ช่วยให้เซลล์ตัวอ่อนเจริญเติบโตเป็นปกติ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และโรคแขนขาพิการแต่กำเนิดได้
3. โฟเลตในทุเรียน ช่วยบำรุงสมอง บำรุงเลือด ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้ และช่วยป้องกันโรคหัวใจและสมองเสื่อมได้
4. กำมะถันในทุเรียน มีส่วนช่วยให้ลูกตัวขาวและผมดกดำได้
5. อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย
6. มีสารจำเป็นต่อการพัฒนาสมองของทารก
7. มีโปรตีน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแก่ทารก
8. โพแทสเซียมในทุเรียน ช่วยควบคุมปริมาณน้ำในร่างกาย และช่วยการทำงานของระบบหัวใจ
9. มีฟอสฟอรัส ช่วยให้ไต กระดูก และฟันแข็งแรง
1. ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลและให้พลังงานสูงมาก ควรควบคุมปริมาณในการกินให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
2. แม่ท้องที่มีโรคประจำตัว หรือมีภาวะเสี่ยงต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หญิงตั้งครรภ์ที่มีน้ำหนักมาก ควรกินแต่น้อย หรือปรึกษาแพทย์ก่อน
3. กำมะถันในทุเรียนออกฤทธิ์ร้อนต่อร่างกาย ทำให้เป็นร้อนในง่าย หากกินมากเกินไปอาจส่งผลให้ความดันโลหิตสูง รู้สึกแน่นท้อง และอาจส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ได้
4. หากแม่ท้องอยากกินทุเรียน ควรจัดมื้ออาหารในช่วงนั้นให้สมดุลกับร่างกาย ไม่ควรกินของฤทธิ์ร้อนซ้ำเข้าไปอีก
5. ทุเรียนมีแคลอรี่ลูกมาก แค่ 4-6 เม็ดก็ให้ปริมาณแคลอรี่สูงถึง 400 กิโลแคลอรี่ ซึ่งเทียบเท่าน้ำอัดลม 2 กระป๋อง หรือข้าว 1 จานพูน