โดยมีปัจจัยที่เอื้อให้เกิดการอักเสบมากมาย อาทิ จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในจมูก จมูกอุดตัน ผนังกั้นจมูกคด และเป็นหวัด เป็นต้น ซึ่งอาการของโรคไซนัสอักเสบในเด็กและผู้ใหญ่จะมีลักษณะต่างกัน โดยอาการของเด็กมักสังเกตได้จากความผิดปกติต่าง ๆ ดังนี้
• เป็นหวัดรุนแรงเกิน 10 วัน
• น้ำมูกไหลไม่หยุด หรือบางรายรู้สึกแน่นจมูกตลอดเวลา
• น้ำมูกมีสีเขียว เหลือง หรือขาวเป็นมูก
• ไอเพราะมีเมืองหรือหนองไหลลงคอ จะไอบ่อยโดยเฉพาะช่วงกลางคืน
• ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
• ปวดหัว มีไข้สูง
หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีอาการดังกล่าว ควรรีบพาไปปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์เอ็กซเรย์ค้นหาสาเหตุและวินิจฉัยว่าอาการอักเสบลุกลามไปถึงอวัยวะใดบ้าง จะได้รักษาได้อย่างถูกต้อง
• กินยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวะนะ อย่างน้อย 10-14 วัน หรือนานกว่านั้น ได้ถึง 3-6 สัปดาห์
• รักษาภูมิแพ้จมูกร่วมด้วย โดยใช้ยาแก้แพ้ หรือยาพ่นจมูกสเตียรอยด์
• ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อให้น้ำมูกที่ข้นเหนียวออกมาได้ง่ายขึ้น
สุขภาพที่แข็งแรงนับเป็นเกราะที่ช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บให้ออกจากจากลูกได้ดีที่สุด หากคุณพ่อคุณแม่ใส่ใจในโภชนาการ ให้ลูกกินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ และได้ออกกำลังกายบ้าง ก็จะช่วยให้เด็กมีสุขภาพกายใจแข็งแรง ห่างจากโรคภัยต่าง ๆ มากขึ้น
ฝุ่นละออง ฝุ่นควัน ควันบุหรี่ หรือมลพิษทางอากาศต่าง ๆ ล้วนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อความระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจของลูก ซึ่งจะส่งผลให้เป็นโรคไซนัสอักเสบได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ และจัดให้บ้านมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นควันและบุหรี่ เพื่อป้องกันการเกิดไซนัสอักเสบของลูก
เมื่อลูกรู้สึกระคายเคืองจมูก หรือรู้สึกว่ามีน้ำมูก ควรให้ลูกสั่งน้ำมูกออกมา เพราะการสั่งน้ำมูกออกมาจะช่วยให้จมูกโล่งและหายใจได้สะดวกขึ้น สำหรับเด็กบางคนที่ยังสั่งน้ำมูกไม่ได้ หรือไม่ชอบสั่งน้ำมูกส่วนใหญ่มักสูดน้ำมูกกลับเข้าไปในจมูก ซึ่งพฤติกรรมนี้จะส่งผลให้สิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเชื้อโรคต่าง ๆ กลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง หากเด็กเรียนรู้ที่จะสั่งน้ำมูกเองเมื่อรู้สึกคัดจมูกก็จะช่วยหลีกเลี่ยงอาการไซนัสอักเสบได้อีกทางหนึ่ง
การเปลี่ยนอุณหภูมิกะทันหัน ส่งผลให้ร่างกายปรับอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสมกับบรรยากาศภายนอกไม่ทัน อาจทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานไม่สมดุลจนส่งผลให้เจ็บป่วย ลุกลามเป็นอาการไซนัสอักเสบได้ ฉะนั้นหากต้องเปลี่ยนอุณหภูมิกะทันหัน อาทิ เดินตากแดดมาเข้าห้องแอร์ หรือออกจากห้องแอร์ไปภายนอก ควรหยุดยืนพักให้ร่างกายปรับอุณหภูมิของร่างกายก่อนพักหนึ่ง จึงไปยังสถานที่ที่มีอุณหภูมิต่างกัน
ภูมิแพ้ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดไซนัสอักเสบได้ หากคุณพ่อคุณแม่ทราบว่าลูกแพ้อะไรบ้างก็ควรหลีกเลี่ยงหรือเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม