นั่นก็คือ มารยาทแบบไทยนั่นเอง วันนี้แม่แหม่มจะมาเชิญชวนให้คุณพ่อคุณแม่ฝึกลูกด้วยมารยาทแบบไทย ๆ กันค่ะ รับรองได้ว่า ถ้าลูกเรานำไปใช้ ใครเห็นก็ต้องรักกันทุกคน
การยกมือไหว้ ทักทาย “สวัสดี” ถือเป็นเอกลักษณ์แบบไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก แม้แต่ชาวต่างชาติบางคนยังนำไปใช้ เพราะเป็นการทักทายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงาม การที่พ่อแม่ฝึกลูกให้รู้จักยกมือไหว้หรือกล่าวคำทักทาย “สวัสดี” กับทุกคนที่พบเห็น นอกจากจะเป็นการสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามให้คงอยู่สืบไปแล้ว ยังเป็นการสร้างความน่ารัก น่าเอ็นดู ซึ่งเป็นสน่ห์อย่างหนึ่งให้กับลูกได้อีกด้วย
สอนให้ลูกรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน เคารพและให้เกียรติผู้อื่น ซึ่งการให้เกียรติผู้อื่นนั้น สามารถแสดงออกได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางวาจา คือ การมีคำพูดที่สุภาพ อ่อนหวาน ไม่พูดจาเสียงดัง หรือตะคอกใส่ผู้อื่น พูดจาด้วยคำสุภาพ มีคำลงท้าย “ค่ะ” “ครับ” ทุกครั้งเมื่อจบบทสนทนา หรือทางการการกระทำ ก็คือ ความเคารพนบนอบต่อผู้ใหญ่ รู้จักวางตัว เช่น เมื่อเดินผ่านผู้ใหญ่ก็ควรค้อมตัว หรือไม่ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ และที่สำคัญพ่อแม่ควรสอนลูกให้มีความเคารพและให้เกียรติต่อผู้ที่มีอายุสูงกว่าเสมอ ไม่ว่าคนคนนั้นจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม
เมื่อได้รับการช่วยเหลือ หรือได้รับสิ่งของใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากคนที่อายุน้อยกว่า หรือมากกว่า คนที่มีฐานะสูงกว่า หรือฐานะต่ำกว่า ก็ควรที่จะกล่าวคำ “ขอบคุณ” เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจที่ได้รับการช่วยเหลือ และเพราะคนเราสามารถทำผิดได้ตลอดเวลา อาจเนื่องจากความไม่รู้ หรืออาจเพราะสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้ต้องทำผิด ดังนั้นการสอนให้ลูกรู้จักการกล่าว “ขอโทษ” จึงถือเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรก ๆ ที่ควรสอนให้ลูกก่อนเข้าสังคม และที่สำคัญการ “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ” ยังเป็นการแสดงถึงวุฒิภาวะทางอารมณ์ของลูกได้ด้วย ถ้าลูกเรียนรู้และสามารถใช้คำ 2 คำนี้ได้อย่างถูกต้อง แสดงว่าลูกเกิดการเรียนรู้และมีทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.