เมื่อปล่อยไว้นานวัน อาจเกิดปัญหาแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคไตเรื้อรัง หรือ ไตวายได้ โรคนี้มักถูกพบในเด็กผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากท่อปัสสาวะในเด็กผู้หญิงสั้นกว่าของเด็กผู้ชาย จึงมีปัญหาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้มากกว่า
การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียจากทางเดินอาหารหรือจากอุจจาระ เดินทางมายังท่อปัสสาวะ แล้วลุกลามมายังกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว มักมาจากการทำความสะอาดหลังขับถ่ายไม่ถูกวิธี การกลั้นปัสสาวะ และความผิดปกติแต่กำเนิดของระบบทางเดินทางเดินปัสสาวะ
• มีไข้
• ปัสสาวะบ่อย ครั้งละน้อย ๆ บางครั้งอาจกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และปวดแสบเวลาปัสสาวะ
• ปัสสาวะขุ่น หรือมีเลือดปนมาด้วย รวมถึงมีกลิ่นเหม็น
• อาเจียน ปวดท้อง คลื่นไส้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
• ปวดท้องน้อย หรือปวดด้านข้างของลำตัว
• ในเด็กเล็กอาจมีอาการที่ร้องกวน งอแง หงุดหงิดหาสาเหตุไม่ได้
• การเจริญเติบโตช้า ตัวเล็ก น้ำหนักไม่ค่อยขึ้น
หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกมีอาการดังที่กล่าวไป ให้รีบพาไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย ซึ่งทำได้โดยการตรวจปัสสาวะและเพาะเชื้อปัสสาวะ หากมีการติดเชื้อจะพบเม็ดเลือดขาว หรือเชื้อแบคทีเรียในปัสสาวะ และการเพาะเชื้อปัสสาวะจะสามารถบอกชนิดของแบคทีเรียที่ก่อโรคได้
สำหรับการรักษาแพทย์จะพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมกับเชื้อแบคทีเรีย อาจะเป็นยาฉีด หรือยาชนิดรับประทาน โดยส่วนใหญ่ในรายที่มีการติดเชื้อรุนแรง มักจะได้รับยาฉีด และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ถ้าเป็นเพียงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการไม่รุนแรง แพทย์จะเลือกให้ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานแทน และกลับบ้านได้
เมื่อมารักษาที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ให้ลูกรับประทานยาต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง ห้ามหหยุดยาเอง และควรสังเกตอาการของลูกอย่างสม่ำเสมอ โดยปกติแล้วหากไม่ติดเชื้อรุนแรงมากนัก หรือเป็นแค่กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการจะดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ แต่ถ้ามีการติดเชื้อรุนแรงอาจใช้เวลารักษาประมาณ 7-14 วัน
หากไม่อยากให้ลูกของท่านเป็นโรคนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรหาวิธีป้องกันและฝึกให้ลูกรู้จักดูแลตัวเอง ซึ่งทำได้ดังนี้
1. ดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
2. เด็กที่ได้รับการฝึกขับถ่ายแล้ว ควรให้ปัสสาวะทุก 3-4 ชั่วโมง และก่อนนอนไม่กลั้นปัสสาวะ
3. เช็ดทำความสะอาดหลังถ่ายหรือปัสสาวะให้ถูกวิธี โดยเช็ดจากด้านหน้าไปหลังเสมอ
4. ใช้ทิชชูที่อ่อนนุ่มในการทำความสะอาดปากท่อปัสสาวะ และอวัยวะเพศ
5. หลีกเลี่ยงการระคายเคืองที่เกิดขึ้นบริเวณท่อปัสสาวะ เช่น การใส่กางเกงที่รัดมาก ๆ หรือถ้าในเด็กเล็กก็ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูปบ่อย ๆ