นักจิตวิทยาคลีนิค Dr. Amy Sullivan กล่าวว่า ความเหงาเป็นโรคระบาด และมันก็สามารถส่งผลได้กับทั้งจิตใจและร่างกายด้วย นอกเหนือจากนี้ความรู้สึกเหงายังอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรังได้อีกต่างหาก โดยเมื่อคนเราเหงา ระดับฮอร์โมนเครียดที่เรียกว่า “คอร์ติซอล” ในร่างกายเราจะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความจำของเราแย่ลง ภูมิคุ้มกันต่ำลง เพิ่มความเสี่ยงของปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด การติดเชื้อ และโรคหัวใจ ความเหงายังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล
ถ้าใครเคยได้ยินคำพูดทำนองว่า "เพื่อนก็เยอะยังจะเหงาอะไรอีก" อ่านต่อตรงนี้ค่ะ Dr. Sullivan เขาบอกว่า ความเหงาไม่ใช่เรื่องการแยกตัวออกจากสังคม แต่มันเป็น "การรับรู้ของตัวเอง" ว่ามีระดับความเชื่อมโยงกับคนอื่น ๆ มากขนาดไหน อย่างที่เราจะเห็นได้ว่าบางคนเหมือนจะอยู่โดดเดี่ยว เพื่อนไม่มาก แต่เขาก็โอเคดี ในขณะที่บางคนอยู่ท่ามกลางคนมากมายแต่กลับเหงาหงอย
1. พยายามเท่าทันอารมณ์ของตัวเอง ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกเหงาในบางโอกาส แต่หากรู้ตัวได้เร็วว่านี่กำลังรู้สึกอีกแล้วนะ ก็จะทำให้เราลงมือจัดการทำอะไรซักอย่างเพื่อให้อารมณ์เหล่านี้ดีขึ้น
2. เข้าใจเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ หลาย ๆ คนดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารที่ดี ตอนนี้ก็ควรเพิ่มเติมเข้าไปด้วยว่าการดูแลสุขภาพจิตใจนั้นสำคัญพอ ๆ กัับการดูแลสุขภาพร่างกายทีเดียว
3. เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมให้แข็งแรงขึ้น ทำได้หลาย ๆ ทาง เช่น หาเวลาไปพบเพื่อนฝูงแบบพบปะตัวจริงๆ กันบ้าง แทนที่จะเพียงส่งข้อความหา หรือโทรศัพท์ไปคุยแทนการส่งอีเมล หรือในที่ทำงานก็เช่นกัน หากไม่เสียเวลาและระบบระเบียบของบริษัท เดินไปพบหน้าเพื่อนร่วมงานที่เราจะติดต่อก็จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ได้ดีเช่นกัน
4. ทำอะไรดี ๆ ให้แก่คนอื่น แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มันมีพลังยิ่งใหญ่ เมื่อเรา “ให้” แก่คนอื่น ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขาก็จะดีขึ้น ออกจากนี้ยังทำให้จิตใจของเรากว้างขวางขึ้น คิดออกไปนอกเหนือจากเฉพาะตัวเราเองอีกด้วยนะ
5. เพลา ๆ โซเชียลมีเดียลงบ้าง Dr. Sallivan พบว่า ยิ่งคนเราใช้โซเชียลมีเดียมากแค่ไหน พวกเขาก็ยิ่งโหยหาความสัมพันธ์กับคนจริงๆ มากขึ้นเท่านั้น
6. โฟกัสที่ “คุณภาพ” มากกว่า “ปริมาณ” บางครั้งการได้มีปฏิสัมพันธ์กับ “เพื่อน” จริงๆ แม้ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ดีต่อใจมากกว่าการมีเพื่อนในเฟซหรือมีฟอลโลเวอร์ใน IG เป็นพัน
7. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อคุณต้องการ บางครั้งมันเกินเลยจากความเหงา กลายเป็นอาการของโรคซึมเศร้า หากถึงระดับนั้น การไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อบำบัดก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำให้คุณผ่านอาการแย่ๆ และรู้สึกเชื่อมโยงกับคนอื่นได้อีกครั้ง