FB : @Tatamnak
Tel : 081-846-2571 หรือ 085-188-1598
ท่าตำหนัก Cafe & Bistro เป็นร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่ค่ะ ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าตำหนัก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ไกลจากกรุงเทพฯ นิดหน่อย แต่พอไปถึงแล้วขอบอกว่าคุ้มกับการขับรถไกล ๆ มากค่ะ แนะนำว่าแวะเที่ยวนครปฐมก่อนตอนเช้าแล้วค่อยมากินข้าว จะฟินสุด ๆ เลยล่ะค่ะ
ร้านนี้หาไม่ยากค่ะ มาร์คจุดไว้บนแมพว่า องค์การบริหารส่วนตำบลท่าตำหนัก ก็วิ่งฉิวมาได้เลย ร้านอยู่เลย อบต. ไปนิดเดียวเองค่ะ พอเข้ามาถึงก็เจอกับบรรยากาศบ้านสวน ชิวมาก ๆ มีโซนที่นั่งให้เลือก 4 โซนด้วยกันค่ะ คือ โซนนั่งพื้นที่มีทั้งแบบเบาะบนพื้นไม้ กับพื้นหิน โซนศาลาริมน้ำ โซนโต๊ะไม้ปิกนิก และโซนห้องแอร์ค่ะ
นอกจากนี้เขายังมีมุมสวย ๆ ไว้ให้ถ่ายรูปด้วยนะคะ ลองเดินออกไปตรงท่าน้ำดูสิ อากาศดี๊ดี
เริ่มหิวแล้ว มาสั่งอาหารกันดีกว่าค่ะ เนื่องจากไปกันครอบครัวใหญ่เลยมีหลายจานหน่อยนะคะ (คิดแล้วก็น้ำลายสอ อยากกลับไปกินอีกจัง)
(79 บาท)
จานนี้จัดว่าเด็ดมากค่ะ เป็นเมนูสุดโปรดเลย เขาจะยำขนมจีนด้วยเครื่องสูตรเฉพาะ รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว แซ่บ หวาน มัน แต่ถ้าเผ็ดเกินไปนิด จะกินแกล้มกับเนื้อปลาทูก็ได้นะคะ อร่อยมาก ๆ จานนี้ลงปุ๊บหมดปั๊บเลยค่ะ ได้รับความนิยมสูงมากจนต้องสั่งมาอีกจานเลย
(79 บาท)
ความแซ่บยังไม่หยุดเท่านี้ค่ะ ยำส้มโอของเขาก็อร่อยไม่แพ้จานแรกเลย ส้มโอเปรี้ยวอมหวานนิด ๆ เป็นรสชาติเปรี้ยวอมเผ็ดกำลังดีค่ะ กินเป็นของว่างรอจานหลักได้ชิว ๆ เพราะเป็นผลไม้ด้วย กินเพลินเลย
(59 บาท)
มากินร้านเขาทั้งที ต้องสั่งเมนูเฉพาะของร้านบ้างค่ะ ขอบอกว่าเห็นรูปอย่างนี้ จริง ๆ จานใหญ่มากนะคะ ผักก็สดกรอบ แถมมีเมล็ดทับทิมและสตอรว์เบอร์รี่มาให้ด้วย ตัดรสชาติได้ดีเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้เขายังเสิร์ฟพร้อมกับน้ำสลัด 2 สูตร คือน้ำสลัดเบอร์รี่ และน้ำสลัดครีมงาญี่ปุ่นค่ะ เลือกจิ้มได้ตามชอบเลย
(179 บาท)
มาถึงจานหลักกันบ้างค่ะ สเต๊กหมูคุโรบุตะ เนื้อหมูเขาค่อนข้างนุ่มและถึงเครื่องดีทีเดียว เนื้อไม่สุกมากเกินไปเลยกินง่ายไม่กระด้างค่ะ ถ้ากินแล้วเริ่มเลี่ยนก็จิ้มซอสมะเขือเทศที่มาเสิร์ฟพร้อมกันได้ อร่อยมากเลยล่ะค่ะ
(89 บาท)
ต่อจากหมูก็มาเมนูซีฟู้ดกันต่อเลย แอบประทับใจเมนูจานนี้นะคะ เพราะปกติเวลาไปกินร้านอื่น สปาเก็ตตี้ขี้เมาเขาจะค่อนข้างมัน แต่ของที่นี่ผัดแห้งดีค่ะ กินแล้วไม่เลี่ยน แถมหมึกกับกุ้งยังชิ้นใหญ่เต็มคำด้วย เผลอแปบเดียวก็กินหมดจานแล้วค่ะ
(199 บาท)
คนรักแซลมอนต้องชอบจานนี้แน่ ๆ ค่ะ เพราะเขานำเนื้อแซลมอนไปย่างจนกรอบ แล้วราดด้วยน้ำยำอีกที ช่วยลดความเลี่ยนของเนื้อแซลมอนได้ดีมาก ๆ แถมมีต้นอ่อนทานตะวันเสิร์ฟมาคู่กันอีก กรุบกริบ ๆ เหมาะสำหรับคนกำลังไดเอทที่สุดเลยล่ะค่ะ
(119 บาท)
ชักคิดถึงเมนูข้าว เลยสั่งข้าวคลุกน้ำพริกมาเพิ่มค่ะ ถ้ากินเฉพาะข้าวกับปลาทูจะรู้สึกว่าจืดไปหน่อย ต้องตักน้ำพริกกะปิราดลงมาเล็กน้อยถึงจะกลมกล่อมเข้ากันดี ค่อย ๆ เล็มไข่เจียวทีละนิด ตักผักเข้าปากอีกหน่อย อร่อยเข้ากันมากเลยนะคะ
(79 บาท)
เมนูโปรดอีกหนึ่งจาน ไม่ว่าจะกินร้านไหนเป็นต้องสั่งค่ะ ขอบอกว่าหมี่กระเฉดกุ้งร้านนี้ถึงเครื่องถึงใจดีจริง ๆ มีทุกรสเลย ทั้งเผ็ด แซ่บ หวาน เค็ม กลมกล่อมมาก ๆ แถมกุ้งก็ตัวโต๊โต เต็มปากเต็มคำทีเดียวค่ะ
(69 บาท)
กินอาหารรสจัดมาเยอะ ขอล้างปากด้วยตำข้าวโพดแบบเปรี้ยวหวานกันหน่อยแล้วกัน เมนูนี้ก็เป็นเมนูที่กินได้เรื่อย ๆ ค่ะ ถือว่าพักท้องไปในตัว กินเยอะไปเดี๋ยวท้องอืดกันพอดี
(150 บาท)
เมนูนี้เด็ก ๆ ชอบค่ะเลยสั่งมาซะหน่อย ทอดมันปลากรายเขาไม่เผ็ดมาก กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รสชาติดี ถึงเครื่อง และไม่มันจนเกินไปค่ะ กินได้เพลิน ๆ ไม่มีเลี่ยนแน่นอน
(150 บาท)
เมนูไฮไลท์ของทางร้านเลยนะคะ มีเฉพาะบางวันเท่านั้นด้วย ปกติกินแต่ขนมจีนน้ำยาปลา เพิ่งจะเคยกินน้ำยาปูเป็นก้อน ๆ นี่ล่ะค่ะ ขอบอกว่าสูตรเขาเด็ดจริง น้ำยาเข้มรสจัด ข้นถึงใจ เห็นมาจานเล็ก ๆ นี่กว่าจะกินหมดก็อิ่มมากเลยนะคะ อย่าดูถูกเขาเชียวล่ะ
พอกินของคาวอิ่มแล้ว ต้องตามด้วยขนมหวานและกาแฟปิดท้ายค่ะถึงจะจบทริปแบบสมบูรณ์ เห็นร้านนี้ขึ้นชื่อด้านกาแฟด้วย เลยขอสั่งสักหน่อยแล้วกัน
(50 บาท)
เครื่องดื่มสุดเบสิกสำหรับล้างคอจากอาหารคาวค่ะ เอสเปรสโซ่ของเขารสชาติเข้มประมาณหนึ่ง เหมาะสำหรับคนอยากกินกาแฟชิว ๆ กลิ่นหอมดีค่ะ
(55 บาท)
อยากกินกาแฟใส่นม รสขมนิด ๆ ต้องเลือกคาปูเย็นของเขานะคะ เหมาะสำหรับสาว ๆ หรือคนที่เริ่มกินกาแฟหรืออยากได้กาแฟที่ไม่เข้มมาก (เดี๋ยวนอนไม่หลับ) สามารถเลือกความขม-หวานได้ตามชอบเลยค่ะ
(50 บาท)
เนื่องจากมีเด็ก ๆ มาด้วย เลยมีน้ำผลไม้เข้ามาแจม ลิ้นจี่โซดาอร่อยค่ะ ไม่หวานมาก หวานอมเปรี้ยวนิด ๆ แถมมีกลิ่นหอมของลิ้นจี่สดด้วยนะ พอเป็นโซดาอะไร ๆ ก็สดชื่นไปหมดเลย
(50 บาท)
ถ้ารู้สึกว่าลิ้นจี่ยังหวานไป ลองเปลี่ยนมาเป็นน้ำผึ้งมะนาวสุดคลาสสิคสิคะ เปรี้ยวนำหวานตาม สดชื่นม๊ากมากเลยนะ
(69 บาท)
อีกหนึ่งของหวานที่พลาดไม่ได้ เค้กมะพร้าวชิ้นนี้น่ากินมาก ๆ ค่ะ ในเนื้อครีมแต่ละชั้นจะผสมเนื้อมะพร้าวลงไปด้วย ทำให้เวลากัดไปแต่ละคำ จะได้รสชาติของมะพร้าวที่เข้มข้นสุด ๆ แต่เค้กเขาค่อนข้างหวานนิดนึงนะคะ สาว ๆ คนไหนเลี่ยนง่ายอาจหากาแฟหรือชาขม ๆ กินแกล้มด้วย จะดีกว่าค่ะ
(90 บาท)
ขนมอีกหนึ่งอย่างที่อร่อยไม่แพ้เค้กมะพร้าวก็คือ แบล็คฟอร์เรส นี่ล่ะค่ะ โดยของทางร้านนี้จะแตกต่างจากร้านอื่น โดยใช้แป้งช็อกโกแลตเข้มข้นรองพื้น ตามด้วยเนื้อครีมชีส ปิดท้ายด้วยแยมสตรอว์เบอร์รี่สด อื้อหือ ! ขอบอกว่าชิมคำแรกนี่อร่อยนุ่มลิ้นมาก ๆ กินแล้วติดใจมากจนต้องซื้อกลับบ้านเลยล่ะค่ะ