ในบางครั้งการที่พ่อแม่ตะโกนใส่กันต่อหน้าลูก ถึงพ่อแม่จะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะเกิดจากอารมณ์ความโมโหแค่ชั่ววูบ แต่รู้ไหมว่า สิ่งเหล่านั้นมันได้หยั่งรากลึกลงไปในความรู้สึกของลูกแล้ว แต่ถ้าในสถานการณ์คับขันที่เราหลีกเลี่ยงการทะเลาะไม่ได้ พ่อแม่ควรจะทำอย่างไรที่จะถนอมจิตใจดวงน้อย ๆ ของลูกให้ได้ดีที่สุด วันนี้แม่แหม่มมีคำตอบค่ะ
ในเวลาที่พ่อแม่ทะเลาะกัน ถึงแม้ในช่วงเวลานั้น อารมณ์จะคุกรุ่นพุ่งพล่านเพียงใด แต่พ่อแม่จงจำไว้ว่า อย่าตะโกน ขึ้นเสียง หรือข่มขู่ใส่กันต่อหน้าลูก เพราะลูกไม่เข้าใจถึงอารมณ์หรือสาเหตุของสิ่งเหล่านี้ เรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาของผู้ใหญ่ ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือการพูดคุยกันบนพื้นฐานของเหตุและผล ซึ่งถ้าพ่อแม่ทำแบบนี้ได้ ก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องการยอมรับและรับฟังเหตุผลของผู้อื่น มากกว่าการใช้อารมณ์และการเอาชนะ
เช่น เรื่องที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ ชู้สาว หรือประเด็นในเชิงลึกที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในเครือญาติของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะจะกระทบต่อเรื่องความเชื่อและสภาพจิตใจของลูก ดังนั้นถ้าขัดแย้งกันในเรื่องราวเหล่านี้ ควรพูดคุยกันถึงปัญหากันในที่ส่วนตัวสองคนมากกว่า
ในบางครั้งการที่พ่อแม่ทะเลาะกันด้วยในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทั้งพ่อและแม่ อาจมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกน้อยใจ และเสียใจในเรื่องที่เขาไม่เห็นด้วยได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ พ่อแม่จะต้องอธิบายถึงเหตุผลให้ลูกฟัง และให้เวลาลูกได้ทำความเข้าใจถึงสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้นตามสมควร
ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน พ่อแม่จะต้องรีบจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด อย่าปล่อยให้เป็นปัญหาบานปลาย เก็บเล็กผสมน้อยจนทำให้จิตใจขุ่นมัว จนก่อให้เกิดเป็นปัญหาที่มันใหญ่เกินแก้ และยิ่งพ่อแม่ปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังยืดยาวออกไปนานแค่ไหน ก็จะยิ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจของลูกนานเท่านั้น และหากปัญหาของคุณแก้ไขหรือตกลงกันได้แล้วนั้นก็ควรที่จะบอกลูก ๆ ด้วยว่า พ่อกับแม่เข้าใจกันแล้ว เราสองคนรักกันเหมือนเดิม และที่สำคัญพวกเรารักลูกมากด้วยจ้ะ
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.