แม่แหม่มเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนคงอยากได้ลูกที่ว่านอนสอนง่าย น่ารักน่าเอ็นดูกันทุกคน แต่....ความฝันนี้มีอันหยุดชะงัก เพราะเหตุใดลูกของเราจึงมักทำอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจ หรือทำให้เราพ่อแม่อ่อนใจอยู่เสมอ

วันนี้แม่แหม่มมีวิธีง่าย ๆ เป็นคำพูดมหัศจรรย์ 5 คำ ที่จะช่วยทำให้พ่อแม่เข้าไปนั่งในใจของลูก และช่วยเปลี่ยนจากเด็กซน เด็กดื้อ ให้กลายเป็นเด็กน้อยน่ารัก น่าเอ็นดู ที่ใคร ๆ เห็นก็ต้องชมมาฝากกันค่ะ

คำพูดมหัศจรรย์

1. “พ่อ-แม่ รักลูกนะ”

คำว่า “รัก” นั้นถือเป็นคำพูดสุดมหัศจรรย์ ที่สามารถละลายใจคนได้ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะการที่ใครสักคนรู้สึกว่าตนเองเป็นที่รักนั้น จะทำให้คน ๆ นั้นรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า และความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่านี่เองที่จะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะทำให้คน ๆ นั้นเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำแต่สิ่งดี ๆ

2. “พ่อ-แม่ เชื่อว่าลูกทำได้”

เพราะความเชื่อมั่นที่พ่อและแม่มีต่อลูก เป็นพลังสำคัญที่สามารถส่งผ่านความเชื่อและความรู้สึก ทำให้ลูกเกิดพลังกายและพลังใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จได้ และพ่อแม่จงเชื่อเถอะว่า ความเชื่อมั่นที่เราแสดงให้ลูกเห็นจะส่งผลให้ลูกประสบความสำเร็จในสิ่งที่ลูกคาดหวังและตั้งใจไว้แน่นอน

3. “พ่อ – แม่ภูมิใจในตัวลูก”

ตามธรรมชาติของมนุษย์ ทุกคนต้องการการยอมรับ โดยเฉพาะการยอมรับจากบุคคลที่พวกเขารัก ดังนั้นการที่พ่อแม่แสดงความภูมิใจในสิ่งที่ลูกทำได้บ้าง แม้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ลูกมองเห็นคุณค่าของตัวเอง และมีความเชื่อมั่นที่จะทำสิ่ง ๆ นั้นให้ดีเพิ่มมากขึ้น

4. “ไม่เป็นไรนะลูก” 

ในบางเวลาที่ลูกทำอะไรผิดพลาด การที่พ่อแม่ให้อภัย ไม่กล่าวโทษหรือตอกย้ำในความผิดของลูก ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ลูกเกิดกำลังใจ และมีความพยายามที่จะทำในสิ่งนั้น ๆ ต่อไป อีกทั้งยังเป็นการสอนให้ลูกรู้จักการให้อภัยตนเอง มองโลกในแง่ดี และเรียนรู้ที่จะให้อภัยผู้อื่นต่อไปด้วย

5. “หนูเป็นเด็กดี”

การพูดด้วยคำพูดเชิงบวก จะช่วยทำให้ลูกรู้สึกว่าตนเองมีพลังบวก และพลังบวกจะช่วยผลักดันให้ลูกมีพฤติกรรมเชิงบวกตามมา เพราะในบางครั้งการที่ลูกทำพฤติกรรมบางอย่างไม่น่ารัก ไม่ได้เกิดจากความต้องการที่จะทำพฤติกรรมเชิงลบเหล่านั้น แต่เกิดจากความต้องการเรียกร้องความรัก ความใส่ใจจากพ่อแม่มากขึ้น ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องทำความเข้าใจและหมั่นสร้างพลังบวก ด้วยการใช้คำพูดเชิงบวกเพื่อแสดงถึงความรักที่มีต่อลูกอยู่เสมอ

เพราะลูกเติบโตขึ้นทุกวัน ทั้งทางด้านร่างกายและความคิด ดังนั้นขอให้คุณพ่อคุณแม่ระลึกไว้เสมอว่า ลูกเองก็อยากเป็นเด็กดี และคุณพ่อคุณแม่ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ลูกค้นพบวิธีที่จะเป็นเด็กดีได้ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองให้เหมาะสม ลูกอาจต้องใช้เวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่าง และเมื่อลูกมีพฤติกรรมดีขึ้นพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการเปลี่ยนแปลง ขอให้พ่อแม่หมั่นชื่นชมและให้กำลังใจลูก ไม่นานเขาก็จะเป็นเด็กดีให้คุณพ่อคุณแม่ชื่นใจค่ะ

สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.