แทนที่จะกินอาหารซึ่งมีน้ำตาล ไขมัน หรือคอเลสเตอรอลสูง คนสายอัลคาไลน์ก็ไปกินพวกผักผลไม้ออร์แกนิก ธัญพืช โปรตีนบริสุทธ์จากถั่ว ไขมันดีต่อสุขภาพที่ได้จากเมล็ดแฟลกซ์ มะกอก หรือคาโนลา อย่างไรก็ตาม อาหารที่ว่ามานี้ไม่ใช่ว่าจะมีฤทธิ์เป็นด่างเท่านั้น บางอย่างก็เป็นกรด แต่เมื่อมันเข้ามาในร่างกายของเรา และผ่านกระบวนการย่อยและเผาผลาญเรียบร้อยแล้ว จะผลิตสิ่งที่เรียกว่า "Alkaline Ash" ขึ้นมา ผู้รักสุขภาพสายอัลคาไลน์เขาบอกว่า เมื่อร่างกายของเราสามารถรักษาสภาพความเป็นด่างไว้ได้เล็กน้อยแล้ว ระบบต่าง ๆ ก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น เอาละ มาดูกันดีกว่าว่าผักที่มีฤทธิ์อัลคาไลน์ได้แก่อะไรบ้าง
รู้หรือไม่ว่าถั่วอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะมีฤทธิ์เป็นกรดจนกระทั่วมันแตกหน่อ มีเพียงไม่กี่ชนิดที่มีฤทธิ์เป็นกลางหรือเป็นด่างเล็กน้อย ซึ่งอัลมอนด์เป็นหนึ่งในนั้น สารอาหารอื่น ๆ ในอัลมอนด์ ได้แก่ แคลเซียม เหล็ก โปรตีน
ส่วนมากอาร์ทิโช้คถูกใช้วางไว้ด้านบนของสลัดหรืออยู่ในน้ำจิ้ม แต่จริง ๆ แล้วประโยชน์ของมันมีมากหลายจนควรเอามาปรุงเป็นอาหารจานหลัก เช่น เป็นผักที่มีระดับสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก จากการทดสอบผักต่าง ๆ 1,000 ชนิดพบว่า อาร์ทิโช้คมีสารดังกล่าวมากเป็นลำดับ 7 เลยทีเดียว ดังนั้นมันจึงช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย รวมถึงป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจได้ด้วย สารอาหารอื่น ๆ ในอาร์ทิโช้ค ได้แก่ วิตามินซี วิตามินเค โฟเลต
หน่อไม้ฝรั่งมีความเป็นด่างสูง แต่ไม่ใช่แค่นั้นที่น่าสนใจ มันยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ คุณค่าทางอาหาร และความสามารถในการจำกัดสารพิษ นอกจากนี้ที่น่าสนใจมากสำหรับสาว ๆ คือมันมีประโยชน์ในด้านชะลอความแก่ด้วยนะ ส่วนสารอาหารอื่น ๆ ในหน่อไม้ฝรั่งก็ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี เหล็ก
อะโวคาโดมีโพแทสเซียมสูงพอ ๆ กับไขมันดีสูง สำหรับน้ำมันอะโวคาโดคุณก็สามารถใช้มันแทนน้ำมันอื่น ๆ ได้เลย นอกจากนี้อะโวคาโดยังมีวิตามินซี วิตามินเอ และไฟเบอร์อีกด้วย
โหระพามีฤทธิ์เป็นด่าง และมันยังมีสารฟลาโวนอยด์ซึ่งช่วยเรื่องการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อีกทั้งทั่ว ๆ ไปแล้วโหระพานั้นก็มีสรรพคุณรักษาโรคภัยไข้เจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ของร่างกายได้ สารอาหารอื่น ๆ ในโหระพา ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินเค แคลเซียม
บีทรูทเป็นผักชนิดหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มค่า pH ให้ร่างกายของคุณได้ (ค่า pH เพิ่มคือเพิ่มความเป็นด่าง) ที่น่าสนใจคือบีทรูทมีรงควัตถุเบทาเลน ซึ่งมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง ที่ควรคำนึงถึงนิดหน่อยคือเมื่อจะกินบีทรูทควรเลือกซื้อหัวสดแล้วเอามาทำให้สุกด้วยไอน้ำ เพราะถ้าเอาไปปรุงแบบดองจะทำให้คุณค่าทางอาหารลดลง สารอาหารอื่น ๆ ในบีทรูทได้แก่ วิตามินซี วิตามินเค โฟเลต
บางคนกินบร็อกโคลีทุกวันเพื่อรักษาสุขภาพและให้ประโยชน์ด้านรักษาความเป็นด่างเอาไว้ ซึ่งจะให้ได้ประโยชน์อย่างนั้นคุณควรจะกินเจ้าผักนี่ราว ๆ 3-4 วันต่อสัปดาห์ สารอาหารอื่น ๆ ของบร็อกโคลี ได้แก่ วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม