“สถานีผักและคนรักกาแฟ” เป็นร้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มาทางพุทธมณฑลสาย 4 ก็ได้ค่ะ (ร้านนี้เป็นสาขา 2 นะคะ สาขาหลักอยู่ที่โรงแรมตะวันนา แถวสุรวงศ์ค่ะ) ขับรถเข้าไปลึกหน่อย แต่มีป้ายบอกตลอดทางนะคะ พอมาถึงร้านต้องขอบอกว่าบรรยากาศดีมาก ๆ เพราะต้นไม้เยอะมาก แถมตัวร้านยังเป็นบ้านไม้ ให้บรรยากาศบ้านสวยมากเลยล่ะค่ะ มีทั้งที่นั่งริมระเบียง ชิงช้า และมุมให้ถ่ายรูปด้วยนะคะ
(149 บาท)
ขอเริ่มที่ออเดิร์ฟจานแรกด้วยแซนวิชก่อนนะคะ เห็นหน้าตาน่ากินมาก ๆ เป็นขนมปังปิ้งกรอบ มีแซลมอนรมควันและไข่ลวกโปะหน้าไว้ รสชาติกลมกล่อมมากค่ะ กินไปคำแรกรู้สึกติดใจ แต่พอกินคำต่อ ๆ ไปแอบเลี่ยนเบา ๆ อาจเพราะราดด้วยมายองเนสด้วย จานนี้แบ่งกันกินคนละคำสองคำกำลังดีค่ะ
(90 บาท)
มาต่อกันด้วยเมนูสลัดกันดีกว่าค่ะ ไหน ๆ ก็เป็นจุดเด่นร้านนี้แล้วขอสั่งเลยแล้วกัน ตอนมาเสิร์ฟแอบตกใจนิด ๆ ค่ะเพราะจานใหญ่มาก และผักเยอะมาก กินผักกันจุใจมากเลยค่ะ แถมยังมีน้ำสลัดให้เลือกถึง 3 รสด้วยกัน นั่นคือ น้ำสลัดบีทรูท (สีชมพู) เป็นน้ำสลัดรสอมเปรี้ยวนิด ๆ เหมาะสำหรับคนชอบรสหวานนิดเปรี้ยวหน่อย, น้ำสลัดวาฟุ (สีครีม) เป็นน้ำสลัดญี่ปุ่นผสมงา รสชาติจะนุ่ม ๆ เปรี้ยวนิด ๆ หอมหวานที่สุด และน้ำสลัดฟักทอง (สีเหลือง) ให้รสชาติเข้มข้นของฟักทองสุด ๆ เลยค่ะ
(320 บาท)
สเต็กเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมสลัดจานโตจานนี้น่าจะถูกใจคนรักสเต็กเนื้อมากเลยล่ะค่ะ เพราะเนื้อเขาหวานนุ่ม จะติดเหนียวนิดหน่อยแต่ไม่มากนัก ความสุกเลือกได้ตามชอบ ซอสพริกไทยดำรสจัดจ้านดีค่ะ
(189 บาท)
พอร์คชอพจานนี้ถือเป็นจานโปรดอีกจานหนึ่งที่หมดเร็วมาก ๆ เพราะชอบกันทุกคน เนื้อหมูสีขาวนุ่มกำลังดี ไม่เหนียวเกินไป เข้ากับซอสพริกไทยดำมากเลยค่ะ ที่สำคัญคือเสิร์ฟมาจานใหญ่มาก มีผักให้กินจุใจเลย
(149 บาท)
สายอาหารฝรั่งต้องไม่พลาดจานนี้แน่นอนค่ะ ตอนแรกไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมาก เพราะชอบกินคาโบนาราอยู่แล้ว แต่พอได้ชิมเท่านั้นล่ะค่ะ ขอบอกว่า อร่อย มาก !! ไม่ได้อวยเกินจริงแต่อย่างใด เป็นสปาเก็ตตี้คาโบนาราที่ใช้ไข่แดงเป็นหลัก ผสมกับซอสครีมพอให้ได้รสชาติ ไม่ได้เจอของอร่อยแบบนี้มานานแล้ว ฟินมากเลยค่ะ ขอยกเป็นเมนูไฮไลท์เลยค่ะ
(149 บาท)
สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ชอบซอสครีมเพราะกลัวจะเลี่ยน ลองจานนี้ดูค่ะ เป็นสปอเก็ตตี้กระเทียมผัดเบคอนหอม ๆ มีรสเผ็ดเล็กน้อย กินได้เรื่อย ๆ ไม่เลี่ยนด้วยค่ะ
(159 บาท)
เปลี่ยนจากฝั่งตะวันตกมาอาหารไทยแนวฟิวชั่นกันบ้างค่ะ หลังจากเลี่ยนมาหลายเมนู ข้าวผัดจานนี้หมดเร็วมาก ๆ อาจเพราะรสจัดจ้านของข้าวผัด ผสมกับความอร่อยของแซลม่อนกับจิ้มแจ่ว ช่วยแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี แถมอิ่มท้องอีกด้วย
(109 บาท)
อีกหนึ่งเมนูสำหรับสายข้าวค่ะ เมนูนี้ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย ข้าวคลุกกากหมูมีรสเผ็ดนิด ๆ เข้ากันกับไข่เจียวและไส้กรอก อยู่ท้องไปจนถึงเย็นแน่นอนค่ะจานนี้
(130 บาท)
อิ่มจากของคาวแล้วมาต่อที่ของหวานกันเลยค่ะ ฮันนี่โทสต์ของที่นี่แม้จะไม่นุ่มชุ่มฉ่ำเท่ากับเจ้าดังในกรุงเทพฯ แต่ขอบอกว่าหอมอร่อยไปอีกแบบค่ะ ยิ่งไอศกรีมวานิลาแบบดั้งเดิมเหมือนที่เคยกินตอนเด็ก ผสมกับขนมปังเนยราดน้ำผึ้ง ขอบอกว่าขนมจานนี้เผลอไม่ได้นะคะ ตักกันคนละสามสี่คำก็หมดแล้วค่ะ อร่อยเกินห้ามใจ !!
(95 บาท)
ต่อจากขนมก็ตบท้ายด้วยกาแฟค่ะ กาแฟไฮไลท์ของที่นี่คืออ บราวน์เบย์ เป็นกาแฟผสมช็อกโกแลตเข้มข้น ตัดรสชาติด้วยความสดชื่นจากส้ม รสชาติแปลกแต่อร่อยมากค่ะ กาแฟขมกำลังดี ยิ่งใส่ช็อกโกแลตเข้าไปอีกก็ยิ่งเข้มข้น พอดีกับมีรสส้มเข้ามาตัด เลยทำให้กาแฟแก้วนี้ลงตัวสุด ๆ แต่ขอบอกว่าคนที่ไม่เคยกินกาแฟ กินแก้วนี้ไปอาจตาค้างได้นะคะ เพราะเขาผสมเอสเปรสโซ่ไปตั้ง 2 ช็อตแน่ะ
(95 บาท)
อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ของทางร้าน ขอบอกว่าเป็นเมนูแปลก ๆ อีกแล้วค่ะ เพราะเป็นกาแฟแบบ Cold Brew ที่ผสมน้ำอัญชัญเข้าไปด้วย !! โอ้โห กาแฟส้มว่าแปลกแล้ว กาแฟอัญชัญแปลกกว่าอีกค่ะ แถมพอชิมรสชาติ เอ้อ ไม่เหมือนดื่มกาแฟเลยค่ะ เหมือนดื่มน้ำอัญชัญมะนาวมากกว่า เพราะรสชาติสดชื่นมาก แถมยังมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวจากมะนาวคาราเมลที่แต่งหน้ามาอีก “สีลม” นี่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านจริง ๆ ค่ะ ถ้าไม่เชื่อไปชมวีดีโอวิธีการทำด้านบนอีกรอบดูก็ได้นะ
ทั้งอิ่ม ทั้งอร่อย แถมได้รูปสวย ๆ กลับไปอีก นับว่าคุ้มค่ากับการมาที่ “สถานีผักและคนรักกาแฟ” จริง ๆ ค่ะ สาว ๆ ที่กำลังมองหาสถานที่ชิล ๆ บรรยากาศดีที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อย่าลืมแวะมาที่นี่นะคะ อ้อ ! แล้วใครที่ติดใจความสดและความหวานกรอบของผักที่เขานำมาเสิร์ฟ สามารถขอตะกร้าและไปเดินเลือกซื้อผักกลับบ้านได้ด้วยนะ ! ผักของทางร้านเป็นแบบไฮดรอลิกปลอดสาร สะอาด ปลอดภัย แถมน่ากินสุด ๆ คุณเล็กเจ้าของร้านรับประกันคุณภาพเลยค่ะ
**รีวิวนี้จ่ายเอง อร่อยเอง ชอบเอง ไปกันเถอะนะ ร้านเขาน่ารักจริง ๆ **