เอ้า แต่ก็เคยได้ยินผ่านหู อ่านมาผ่านตามาบ้างว่าเครื่องดื่มแก้วโปรดทั้งชาและกาแฟ นอกจากช่วยเติมพลังให้เราสดชื่นตื่นเต็มตาแล้ว ยังช่วยลดความอ้วนได้ด้วย ! จริงไหมนะ ? แล้วดื่มอะไรช่วยให้ผอมเร็วกว่ากัน ? ต้องดื่มในปริมาณเท่าไรต่อวัน ? ที่นี่มีคำตอบค่ะ
เพราะทั้งชา และกาแฟมีคาเฟอีนซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกายได้ แต่ชากาแฟที่เหมาะกับการควบคุมน้ำหนักควรเป็นกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล ไม่เติมครีมเทียม และต้องเป็นชา กาแฟร้อนชงกันใหม่ ๆ ควันกรุ่น ไม่ใช่ชาที่จับใส่ขวดเติมน้ำตาลแช่เย็นที่วางขายตามร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ชา กาแฟช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ แต่น้ำตาลคือตัวการของความอ้วน แค่เริ่มต้นดูแลตัวเองด้วยการหันมาดื่มชา กาแฟเพียว ๆ โดยไม่เติมน้ำตาลและครีมเทียมแค่นี้ก็ผอมได้แล้วค่ะ อ้อ อนุโลมให้เติมนมพร่องหรือไร้ไขมันได้นะคะ เพราะแม้ว่าคุณจะอยากกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปมากขนาดไหน แต่ร่างกายก็ยังคงต้องการไขมันดีจากการกินที่มีคุณภาพและจำกัดปริมาณไขมันให้อยู่ในเกณฑ์พอดี เพื่อทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลดีต่อการควบคุมน้ำหนักและดูแลรูปร่างในระยะยาว
คำตอบคือ ไม่ใช่ ค่ะ ข้อมูลที่ได้จากการวิจัยพบว่า แม้ในกาแฟจะมีสารคาเฟอีนอยู่จริง และคาเฟอีนปริมาณ 100 มิลลิกรัมจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกายได้จริง แต่ได้ในปริมาณที่น้อยมาก ไม่เพียงพอที่จะส่งผลให้สาว ๆ ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำเพียงอย่างเดียวผอมเพรียวได้ สำหรับใครที่กำลังคิดว่า "งั้นก็แก้ปัญหาด้วยการดื่มกาแฟเยอะสิ จะได้เผาผลาญได้มากขึ้น" ข่าวร้ายค่ะ เพราะงานวิจัยใหม่ ๆ ออกมายืนยันแล้วว่า การดื่มกาแฟมากเกินไปมีผลเสียต่อร่างกาย เพราะคาแฟอีนจะขับแคลเซียมออกไปจากร่างกาย ทาง FDA หรือองค์การอาหารและยาแห่งประเทศสหรัฐฯ กำหนดปริมาณคาเฟอีนที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย คือ ไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเท่าการดื่มกาแฟไม่เกิน 2-3 แก้วต่อวัน
ชาที่นิยมดื่มกันขณะนี้มีหลายสายพันธุ์ ทั้งชาขาว ชาดำ ชาอัสสัม ชาอู่หลง และชาเขียว แต่พระเอกขี่ม้าขาวที่จะมาช่วยเราให้พ้นจากความอ้วนก็คือ ชาเขียว นั่นเอง เพราะมีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การดื่มชาเขียวช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานขณะพักได้จริง
และยังมีการทำการทดลองในกลุ่มคนไทยที่มีรูปร่างอ้วน พบว่าการดื่มชาเขียวช่วยลดน้ำหนักได้ประมาณ 1 กิโลกรัมต่อเดือน !!!!! ปริมาณสารสกัดชาเขียวที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้คือ 400-750 มิลลิกรัม โดยให้กลุ่มตัวอย่างดื่มทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์
เพราะในชาเขียวมีสารคาเทชิน ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมันได้ดี ทำให้ไขมันที่สะสมในร่างกายสลายไปได้เร็วขึ้น ที่ต้องเป็นชาเขียวเพราะมีปริมาณสารคาเทชินมากกว่าทั้งชาดำหรือชาอู่หลง ชาเขียว 1 ซองมีปริมาณคาเทชินอยู่ประมาณ 30-100 มิลลิกรัม แตกต่างกันไป หากอยากควบคุมน้ำหนักก็ต้องดื่มชาเขียววันละประมาณ 3-4 ซอง