เมื่อคุณขาดน้ำระดับพลังงานจะดิ่งฮวบลง ร่างกายคุณอาจตอบสนองด้วยการสั่งให้กินแทน ดังนั้นควรดื่มน้ำจนได้ปริมาณสัก 2 ลิตรต่อวัน โดยอาจใส่ขวดตั้งไว้ให้เห็นเลยว่าวันนี้ต้องกินเท่านี้ แล้วค่อยๆ จิบให้หมดในระหว่างวัน
เพียงแค่การนั่งหรือยืนให้ถูก (หลัก ๆ คือยืดตัวตรง ให้ร่างกายอยู่ในลักษณะสมดุล) นั้นก็มีผลในการบูสต์ระดับพลังงานในร่างกายแล้ว
แม้คาเฟอีนจะให้พลังงานได้อย่างรวดเร็ว แต่การรับมันเข้าไปมากเกินก็ทำให้คุณไปจบลงที่อาการขาดน้ำและอ่อนเพลียได้ นอกจากนี้หากรับคาเฟอีนในช่วงหัวค่ำยังทำให้คุณนอนไม่หลับได้อีกต่างหาก ดังนั้นแต่ละวันควรจะตั้งไว้ว่าจะรับคาเฟอีนแต่พอดี เช่นดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเพียงไม่เกิน 1-2 แก้ว และอย่าลืมหลีกเลี่ยงสิ่งที่มีคาเฟอีนอื่นๆ เช่น ช็อกโกแลต ในช่วงค่ำก่อนเข้านอน
เคยเชื่อกันว่าควรกินมื้อเช้าให้เยอะที่สุดเพื่อให้พลังงาน แต่ผู้เชี่ยวชาญในสมัยนี้บอกว่าถ้ากินมื้อเช้ามากไป สิ่งที่ตามมานั้นจะเป็นอาการซึมเซาเฉื่อยเนือยเสียมากกว่า ส่วนสิ่งที่เหมาะจริงๆ สำหรับกินเป็นอาหารเช้าก็คืออาหารที่มีทั้งสารอาหารประเภทโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไฟเบอร์ต่างหาก
เดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์พกติดตัวหลายอย่างที่ใช้แทร็กการเคลื่อนไหวและกิจกรรมที่เราทำต่อวันได้ ข้อดีของอุปกรณ์เหล่านี้คือจะบอกเราว่าวัน ๆ หนึ่งเราได้เผาผลาญพลังงานไปเท่าไหร่ ช่วงไหนของวันที่เรามักอยู่เฉย ๆ เมื่อเอาข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลก็จะสามารถแพลนได้ว่าควรจะทำอะไรเพิ่มเพื่อให้มีการขยับร่างกายเพิ่ม ได้เผาผลาญแคลอรี่เพิ่ม
ข้อนี้เน้นสำหรับสาวออฟฟิศโดยเฉพาะ บางครั้งสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นมีมาก ๆ ก็ทำให้เราเคลื่อนไหวน้อยลง ลองย้ายที่ของบางอย่างออกไปดูสิ จากที่เคยอยู่ใกล้ ๆ จนเอื้อมถึง ถ้ามันอยู่ห่างไปหน่อยก็จะทำให้คุณเคลื่อนไหวร่างกายเพิ่มได้นะ เช่น ถังขยะนั่นไง
เมื่อลุกจากเตียงปุ๊บ แทนที่จะเริ่มวันด้วยการสไลด์หน้าจออ่านข่าวหรือเกลือกกลิ้งจนกว่าจะวินาทีสุดท้าย ลองเปลี่ยนเป็นลุกขึ้นแล้วยืดเส้นยืดสายสัก 10-15 นาทีดู การทำแบบนี้นอกจากดีต่อร่างกายแล้วยังช่วยจัดระบบความคิดของคุณได้ด้วย เพียงเริ่มต้นวันด้วยดี ที่เหลือก็ดีไปกว่าครึ่งทางแล้ว
บางคนคิดว่าก็ออกกำลังกายหนักไปเลยเป็นวัน ๆ ไป ที่เหลือก็สบาย ๆ เสียจะดีกว่า แต่การออกกำลังหนักจนเกินไปนั้นจะกลายเป็นส่งผลเสียต่ออัตราการเผาผลาญ หนึ่งเพราะถ้าออกกำลังมากจนแรงหมด ร่างกายก็จะอ่อนเพลียไม่แอกทีฟ สองคือถ้าออกหนักจนบาดเจ็บ ก็กลับต้องกลายเป็นอยู่นิ่ง ๆ ไป พยายามเคลื่อนไหว ออกแรงนิด ๆ หน่อย ๆ แต่สม่ำเสมอจะดีกว่า