ภาพประกอบ shutterstock.com
นอกเหนือจากอันตรายบนท้องถนน ที่ต้องระมัดระวังอุบัติเหตุกันอยู่แล้ว ทัั้งเรื่องเมาไม่ขับ ต้องใส่หมวกกันน็อค ก็มีอีก 6 อันตรายเหล่านี้ที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อเตรียมป้องกันและรับมือได้อย่างถูกต้อง
ภาพประกอบ https://pixabay.com
- ปีนี้รัฐบาลกำชับและกวดขันการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ โคมไฟ โคมลอย ในช่วงลอยกระทง พร้อมขอความร่วมมือผู้จัดงาน ร้านค้า สถานบันเทิง ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว หรือบุคคลทั่วไป และสร้างความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
- ใช้ผ้าชุบน้ำประคบแผลหรือเปิดน้ำให้ไหลผ่านแผลประมาณ 10 นาที เพื่อบรรเทาอาการปวด และปิดแผลด้วยผ้าสะอาด
- ถ้าเป็นแผลใหญ่ ไหม้เป็นบริเวณกว้าง ให้ใช้ผ้าสะอาดห่อตัวผู้บาดเจ็บ ถ้าบาดแผลอยู่บริเวณที่มีเสื้อผ้า ให้ถอดออกเพื่อป้องกันเสื้อผ้าติดบาดแผล
- ห้ามใส่ยาหรือสารใด ๆ บนบาดแผลถ้าไม่แน่ใจ เพราะอาจทำให้ระคายเคืองแผลได้
- รีบโทรการแพทย์ฉุกเฉินที่สายด่วน 1669 เพื่อให้นำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
ส่วนใหญ่อันตรายมักเกิดจากพลัดตกน้ำเพราะคนเบียดเสียด หรือการลงน้ำไปเก็บเศษเงินในกระทง ควรเลือกลอยกระทงบริเวณท่าน้ำ โป๊ะเรือที่แข็งแรง ที่ผู้คนไม่เบียดเสียด ผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด
ถ้ากรณีผู้ป่วยหายใจเองได้ ควรจับผู้ป่วยนอนตะแคง หงายศรีษะไปข้างหลังเพื่อให้น้ำไหลออกทางปาก ใช้ผ้าคลุมให้ความอบอุ่น และโทรแจ้ง 1669
ภาพประกอบ https://flic.kr/p/hGjvPQ
หลีกเลี่ยงการปล่อยโคมลอยใหล้แหล่งชุมชนเพื่อป้องกันไฟไหม้จากโคมลอยที่ตกตามบ้านเรือน หรือตามแนวเส้นทางการบิน
ช่วงเทศกาลนี้ หนุ่มสาวมักใช้โอกาสในการแสดงความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์กัน จะมีทั้งที่กรณียินยอมและการถูกข่มขืนเป็นจำนวนมาก สาว ๆ จึงไม่ควรประมาท รู้วิธีป้องกันตัวเองและการเอาตัวรอด เพราะการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่พร้อม อาจก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น การตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ การทำแท้ง
ภาพประกอบ https://flic.kr/p/hGj4C3
ผู้ปกครองควนดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด เดินจูงมือหรือให้อยู่ในสายตาตลอดเวลา ควรทำป้ายชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ ติดไว้ที่ตัวเด็ก และสอนลูกหลานให้รู้จักแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อเกิดการพลัดหลง นอกจากนี้ทางมูลนิธิกระจกเงายังเล็งเห็นว่า ช่วงลอยกระทงแต่ละบ้านอาจพาลูกน้อยออกมาร่วมลอยกระทงด้วย ซึ่งในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่าน อาจส่งผลให้เด็กโดนลักพาตัวหรือพลัดหลงได้ง่าย จึงแนะนำวิธีป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือปัญหาการพลัดหลงไว้ดังนี้
1. จดจำและบันทึกลักษณะหน้าตา และการแต่งกายของเด็กในวันนั้น
คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองควรจดจำและบันทึกลักษณะหน้าตา ลักษณะเด่น และการแต่งกายของเด็กในวันนั้นให้แม่นยำ หากเกิดกรณีพลัดหลงจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง
2. ถ่ายภาพของเด็กไว้ในโทรศัพท์
ในกรณีที่เด็กพลัดหลง จะได้นำภาพจากโทรศัพท์มือถือให้เจ้าหน้าที่ดูอ้างอิงได้
3. เขียนชื่อ-สกุล และเบอร์ติดต่อไว้ที่เด็ก
คุณพ่อคุณแม่ควรเขียนชื่อ-สกุล พร้อมด้วยเบอร์ติดต่อ ใส่กระเป๋าห้อยคอ หรือใส่กระเป๋ากางเกง/กระโปรงของเด็กไว้
4. ฝึกทักษะการเอาตัวรอดแก่ลูก
คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายให้ลูกจดจำจุดนัดพบ หรือสถานที่หลักหากเกิดการพลัดหลงกัน หรืออธิบายให้ลูกสังเกตเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบที่อยู่ภายในสถานที่ หากพลัดหลงหรือต้องการความช่วยเหลือ ให้รีบไปยังสถานที่นัดพบ หรือแจ้งหน้าที่เพื่อให้ติดต่อกับคุณพ่อคุณแม่ พร้อมทั้งห้ามไม่ให้เด็กเดินตามหาพ่อแม่หรือกลับบ้านเองโดยเด็ดขาด
5. ย้ำกับเด็กว่า "ห้ามไปกับคนแปลกหน้า"
คนแปลกหน้า ยกเว้นเจ้าหน้าที่ในงาน อาจเป็นมิจฉาชีพได้ ควรเตือนลูกว่าห้ามไปกับคนแปลกหน้าเด็ดขาด
6. ดูแลลูกไม่ให้คลาดสายตา
การดูแลลูกอย่างใกล้ชิดเป็นวิธีป้องกันการพลัดหลงที่ดีที่สุด คุณพ่อคุณแม่ควรจูงมือลูก หรือใช้สายจูงจูงลูกไว้ให้อยู่ใกล้ตัวที่สุด เพราะเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คนพลุกพล่าน ลูกน้อยอาจโดนเบียดโดนชนจนพลัดหลงกันได้ง่าย
ในเทศกาลที่มีคนมากมาย พวกโจรย่อมใช้โอกาสนี้ในการชิงทรัพย์ กรีดกระเป๋า ดังนั้นเราควรระวังตัว หมั่นจับกระเป๋า ตรวจตราทรัพย์สินอยู่เสมอ ไม่ใช้กระเป๋าผ้าที่กรีดได้ง่าย กรณีเป็นกระเป๋าเป้ ควรสะพายไว้ข้างหน้าในบริเวณที่คนพลุกพล่าน และไม่ควรพกสิ่งของมีค่า ใส่เครื่องประดับ ติดตัวไปมาก