เล่าให้เข้าใจง่าย เวลาที่ร่างกายจะเผาผลาญสารอาหารจำเป็นต้องมีการใช้ออกซิเจนช่วย ทำให้เกิดออกซิเจนประจุลบออกมาด้วย เจ้าตัวนี้แหละคืออนุมูลอิสระ ซึ่งมันสามารถไปจับกับไขมันไม่ดีได้ หรือไม่ก็ไปรวมกับสารบางชนิดในร่างกายของเรา แล้วกลายเป็นสารพิษทำลายเนื้อเยื่อ หรืออาจไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางพันธุกรรมภายในเซลล์ ทำให้เซลล์ปกติแปรสภาพเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
แล้วอะไรล่ะที่จะช่วยกำจัด หรือต้านอนุมูลอิสระได้ จริงๆ แล้วมันมีอยู่ในอาหารที่หาได้ไม่ยากเลย ผักไทย ๆ ของเราหลายชนิดนี่ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน มาดูดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง แถมเมนูแนะนำให้ด้วยเผื่อใครจะคิดไม่ออกว่าเอาไปทำอะไรกินดี
ผักชีไม่ได้ดีแต่ใช้โรยหน้า เมนูที่กินกับผักชีแล้วเด็ดสุดที่ลองมาแล้วคือ...ผักชีน้ำปลาหวาน แต่จะเด็ดที่แท้ตรงเปลี่ยนกับแกล้ม จากเคยใช้ปลาดุกย่าง วันนึงใช้เป็นแซลมอนทาเกลือนิด ๆ แล้วห่อฟอยล์เอาไปอบแทน เมนูพื้นๆ เลยกลับเด็ดขึ้นมาเลย แซลมอน ผักชี กับน้ำปลาหวานเนี่ย เข้ากันสุด ๆ ไปเลย จริง ๆ นะ หรือจะลองเปลี่ยนเป็นกุ้งเผาเลยก็ยังได้
ง่ายสุดคงต้องเป็นกะเพราผัดกับเนื้อสัตว์ จะเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่ปลา หมึก หมู เนื้อ ไก่ กุ้ง แต่บางทีสั่งตามร้านอาจได้กะเพรามาแค่นิดเดียว กับผักอย่างอื่นที่ไม่ได้สั่งอย่างถั่วฝักยาว หอมหัวใหญ่ ข้าวโพดอ่อน มาแทน ดังนั้นถ้าตั้งใจจริงอาจต้องลงมือทำครัวด้วยตัวเอง แต่ทำด้วยตัวเองก็มีข้อดีนะ แถมก้านกะเพราที่เหลือ เอาไปปักลงดินเฉยๆ มันก็งอกใบใหม่ออกมาได้ง่ายๆ เลยล่ะ
ตำลึงเป็นพืชหาง่าย บางบ้านโชคดีมีตำลึงมาเลื้อยอยู่ข้างรั้วไม่ต้องเสียสตางค์ซื้อ เมนูเบสิกคือแกงจืดตำลึง จะใส่เต้าหู้ หมูสับ หรือวุ้นเส้นไปด้วยก็ไม่เป็นปัญหา หรือถ้าเบื่อแกงจืดจะเปลี่ยนมาทำตำลึงผัดไข่ก็อร่อยเหมือนกันนะ
เมนูยอดฮิตของใบเหลียงหนีไม่พ้นใบเหลียงผัดไข่ อาหารท้องถิ่นใต้บ้านเรา ในกรุงเทพฯ หาใบเหลียงสด ๆ ได้ที่ตลาดบางกะปิหรือตลาดพรานนก ให้เลือกเอาใบอ่อนๆ ไม่งั้นใบแก่เกินอาจจะเคี้ยวไม่ออกเอาได้ วิธีทำไม่ยากซะด้วย แค่เอากระทะใส่น้ำมันน้อย ๆ ตั้งไฟร้อนเตรียมผัด บุบกระเทียมโยนโครมลงไป ใส่ไข่ที่ตีแล้ว ตามด้วยใบเหลียง ปรุงด้วยน้ำตาลน้ำปลาให้รสออกหวานหน่อย ๆ เค็มนิด ๆ ตามชอบ ชอบไข่สุกมากสุกน้อยก็เลือกเอาแล้วแต่ชอบเลย เท่านี้ก็ได้อาหารจานสุขภาพมาแล้ว
ใบย่านางนำมาคั้นเอาน้ำเขียว ๆ แล้วทำแกงเห็ดสไตล์อีสานได้ (ปกติคั้นกันด้วยวิธีขยำมือ แต่ถ้าไม่ถนัดจะเอาใส่ครกตำๆ เลยก็เร็วดีนะ) แกงเห็ดแบบนี้เขาไม่ใส่เนื้อสัตว์ แต่จะเติมพวกผักอย่างชะอม ฟักทอง บวบงู ลงไปด้วย อย่างออริจินอลคงต้องใส่ปลาร้าเพิ่มรสชาติ แต่ใครไม่ชอบหรือไม่กินปลาร้าก็ใส่กะปิแทนได้เลย ตอนปรุงแกงประเภทนี้ต้องให้ออกเค็มเผ็ดสักหน่อยรสมันถึงจะใช่
พูดถึงดอกแค...ก็อดนึกถึงแกงแคตำหรับชาวเหนือไม่ได้ ถือเป็นแกงที่อุดมด้วยผักหลากหลายชนิดอีกอย่างหนึ่ง แต่ถ้าใครไม่คุ้นรสอาหารเมือง จะทำเป็นแกงส้มดอกแคก็ได้ แกงไม่มีกะทิ ถ้าอยากได้อะไรเนื้อ ๆ ก็เติมปลาหรือกุ้งลงไป นอกจากได้สารต้านอนุมูลอิสระแล้วยังดีต่อการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย