Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

Grammar: ความแตกต่างระหว่าง No กับ Not ใช้ต่างกันอย่างไร

Posted By Plook Creator | 10 ต.ค. 60
59,481 Views

  Favorite

เราเคยเข้าใจกันว่า No กับ Not แปลว่า “ไม่” แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ซะทีเดียว ทั้งสองคำมีการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งเราจำเป็นต้องรู้ถึง ความแตกต่างระหว่าง No กับ Not ว่าใช้แตกต่างกันอย่างไร

 
ความแตกต่างระหว่าง No กับ Not

‘No’

‘No’ เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) มีความหมายว่า “ไม่” ในกรณีที่ใช้ตอบคำถาม Yes-No Question ส่วนในกรณีอื่น ๆ จะหมายถึง “ไม่มี” เหมือนกับ not any หรือ not a/an และวางอยู่หน้าคำนามเสมอ ซึ่ง No จะใช้ในกรณีต่าง ๆ ดังนี้

No ในความหมายว่า “ไม่” 

     - ใช้ในการตอบคำถาม Yes-No Question เช่น
       Q: Are you from Korean? (คุณมาจากเกาหลีใช่ไหม?)
       A: No, I am not. (ไม่ใช่ครับ/ค่ะ)

       Q: Is he a doctor? (เขาเป็นหมอใช่ไหม?)
       A: No, he isn’t (ไม่ใช่ครับ/ค่ะ)

       Q: Can I help you? (ให้ฉันช่วยอะไรไหม?)
       A: No. Everything is okay. (ไม่ค่ะ ทุกอย่างโอเค) 

       Q: Do you know her name? (คุณรู้จักชื่อของเธอไหม?)
       A: No, I don’t. (ไม่ ฉันไม่รู้จัก)
 
       Q: Did you walk to school yesterday? (เมื่อวานนี้คุณเดินไปโรงเรียนใช่ไหม?) 
       A: No, I didn’t. (ไม่ ฉันไม่ได้เดินไปโรงเรียน) 


No ในความหมายว่า “ไม่มี”, “ไม่มีเลย” (มีความหมายเหมือนกับ not any หรือ not a/an)

     - ใช้เป็นคำคุณศัพท์นำหน้าคำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์ที่ไม่มี Article (คำนำหน้านาม) เพื่อแสดงว่านามนั้นไม่มีจำนวนหรือไม่เฉพาะเจาะจง เช่น
       There is no apple on the desk. (ไม่มีแอปเปิลบนโต๊ะเลย) 
       There are no hospitals around here. (ไม่มีโรงพยาบาลอยู่ในบริเวณนี้เลย) 
       There were no boys in this room yesterday. (เมื่อวานนี้ไม่มีเด็กผู้ชายเลยในห้องนี้)          
       I have no money. (ฉันไม่มีเงิน)     

     - ใช้นำหน้า Gerund (คำกริยาเติม –ing ที่ทำหน้าที่เป็นคำนาม) เพื่อสื่อความหมายว่า “ห้าม” เช่น 
       No smoking in this area! (ห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณนี้)
       No playing in parking area! (ห้ามเล่นในพื้นที่จอดรถ)
       No fishing! (ห้ามตกปลา)
       No swimming! (ห้ามว่ายน้ำ) 


‘Not’ 

Not เป็นกริยาวิเศษณ์ (Adverb) หมายถึง “ไม่” ใช้ขยายคำกริยา คำนาม และคำคุณศัพท์ วิธีการใช้ Not ในกรณีต่าง ๆ มีดังนี้

     - ใช้นำหน้าคำกริยาหลักเพื่อทำให้เป็นประโยคปฏิเสธ โดยกฎสำคัญเลยต้องมีกริยาช่วย (Auxiliary verb) ไม่ว่าจะเป็น Verb to be, Verb to do, Verb to have, Modal verb มาวางอยู่หน้า not ตามโครง Subject + Auxiliary verb + not + Main verb เช่น
       I don’t like Korean music. (ฉันไม่ชอบเพลงเกาหลี)
       **don’t รูปย่อของ do not ซึ่ง do เป็นกริยาช่วย และ like กริยาหลัก

       He doesn’t intend to work. (เขาไม่ตั้งใจทำงาน)
       **doesn’t รูปย่อของ does not ซึ่ง does เป็นกริยาช่วย และ intend เป็นกริยาหลัก

     - ใช้นำหน้าคำนามที่มี Article (คำนำหน้านาม) หรือคำนามที่มีคำคุณศัพท์บอกจำนวน (any, much, many, some) ขยายอยู่ เช่น
       Not a cloud was in the sky. (ไม่มีเมฆบนท้องฟ้า) 
       There isn’t any libraries in this town. (ไม่มีห้องสมุดเลยสักแห่งในเมืองนี้) 
       **isn’t รูปย่อของ is not

     - ใช้นำหน้าคำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) หรือคำคุณศัพท์ (Adjective) เพื่ออธิบายคำกริยา เช่น
       Mark plays the guitar, but not very well. (มาร์กเล่นกีตาร์ แต่มันไม่ได้เรื่องเอาซะเลย) 
       It’s not surprising that she doesn’t want to go. (ไม่แปลกใจเลยที่หล่อนไม่อยากไป) 

     - ใช้ในการตอบกลับสั้น ๆ เช่น
       Q: Are you going out tonight? (คืนนี้คุณจะออกไปข้างนอกไหม?)
       A: I think not. (ฉันคิดว่าไม่) 

       Q: Can you lend me 10,000 baht? (ให้เงินฉันยืมสัก 10,000 บาทได้ไหม?)
       A: I’m afraid not. (เกรงว่าจะไม่ได้) 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Creator
  • 44 Followers
  • Follow