การที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เราจำเป็นต้องกับมือและทำงานร่วมกับผู้คนหลากหลายประเภททั้งที่เราชอบและไม่ชอบและสิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเปิดใจรับฟังความเห็นที่เราไม่ได้เห็นด้วย โดยปราศจากอคติ แต่หากต้องทำงานร่วมกับคนพวกนี้บ่อย ๆ หรือร้ายกว่านั้นคือเจ้านายสายตรงของเรางี่เง่าสุด ๆ ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศในที่ทำงานช่างเหี่ยวเฉา พาลให้ไม่อยากทำงานไปอีก แต่คนที่เราไม่ชอบมักมีอยู่ทุกที่ การลาออกจากงานทุกครั้งที่เหนื่อยใจจะรับมือกับกันพวกนี้ก็ไม่ใช้วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง มาค่ะสาว ๆ เรามาแก้ปัญหาให้ตรงจุดกันดีกว่า ทำอย่างไรที่นี่มีคำตอบ
ไม่มีใครอยากให้มีเรื่องขัดแย้งในที่ทำงานไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อนร่วมงานหรือกับเจ้านายจอมจู้จี้หรอกใช่ไหมคะ สิ่งที่สาว ๆ มักทำเสมอเมื่อต้องทำงานร่วมกับเจ้านายที่คอยจ้องจับผิดก็คือพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า คอยหลบหน้าหลบตาตลอดเพราะกลัวระเบิดจะหล่นใส่หัวแบบไม่ทันตั้งตัว แต่วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือยอมรับในสิ่งที่เจ้านายของเราเป็น และพยายามทำตามความต้องการในแบบที่เจ้านายอยากให้คุณทำ อย่าไปเสนอหน้าให้เจ้านายเห็นจนกว่างานที่ได้รับมอบหมายจะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อเรารับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จตามกำหนดเวลา เท่านี้เจ้านายจอมจับผิดก็หาเรื่องจิกเราได้ยากขึ้นแล้วค่ะ
ความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือการที่ถูกเจ้านายจับตามองทุกฝีก้าวอาจทำให้เรารู้สึกแย่ หรือแม้แต่พยายามเท่าไรก็ดูเหมือนไม่เคยถูกใจ ไม่เข้าตาเจ้านาย ทำดีเท่าไรก็ไม่เคยพอใจกับความความต้องการ ทำให้คุณรู้สึกท้อแท้ ไม่อยากทำงาน ส่งผลต่อความรับผิดชอบเสียงานเสียการไปเลย ขอให้ระลึกไว้เสมอว่าเหตุผลที่คุณได้งาน หรือได้รับตำแหน่งที่ทำอยู่เพราะฝีมือของเราเองล้วน ๆ เราจึงควรเชื่อมั่นในความสามารถที่เรามี ขอแค่คุณมุ่งมั่น ทุ่มเทเต็มที่กับงานที่ทำ และอย่าให้คำดูหมิ่นเหยียดหยามของใครมาบั่นทอนกำลังใจ ทำให้คลางแคลงใจกับความสามารถของตัวเองจนทำลายหน้าที่การงาน และความภาคภูมิใจในตัวเองจนหมดสิ้น แม้คนคนนั้นจะมีตำแหน่งสูงกว่าก็ตาม พยายามพิสูจน์ความสามารถของตัวเองต่อไปค่ะ สักวันความเก่งกล้าของเราจะฉายแววเจิดจรัสแน่นอน
ตำแหน่ง "ผู้จัดการ" ไม่ได้เป็นการรับรองว่าคนคนนั้นจะรอบรู้ไปทุกเรื่อง พึงระลึกไว้เสมอว่าผู้จัดการก็คือลูกจ้างคนหนึ่งเหมือนเรา เพียงแค่ขอบข่ายความรับผิดชอบอาจมากกว่า และเงินเดือนมากกว่าเราเท่านั้น ! บางครั้งความรอบรู้ในบางเรื่องอย่างเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือนวัตกรรมล้ำสมัยอาจน้อยกว่าเราก็ได้ คิดได้อย่างนี้เราก็จะมีความมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองรู้มากขึ้น และการที่เจ้านายเขม่นเรามันก็ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเสมอไป อาจเป็นเพราะเขาพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ให้คุ้มกับเงินเดือนอยู่ก็ได้ รู้อย่างนี้แล้วก็อย่างเก็บเอาความจู้จี้มาใส่ใจ โฟกัสไปที่ผลงานดีที่สุดค่ะ เจอหน้ากันนอกเวลาทำงานก็ยิ้มแย้มทักทายกันได้ไม่เก็บมาเป็นเรื่องส่วนตัวเนอะ
ส่วนใหญ่ที่มักไม่ชอบเจ้านายจู้จี้อาจเป็นเพราะเราไม่เข้าใจวิธีคิด และสไตล์การทำงานของเขาก็ได้ หากเรามองในมุมเดียวกับเจ้านาย เอาใจเขามาใส่ใจเราและพยายามทำความเข้าใจเหตุผล วิธีคิด และสไตล์การทำงานของเขา เราอาจมองเห็นตัวตนและเข้าใจจุดมุ่งหมายในการทำงานของเจ้านายมากขึ้น ปรับสไตล์การทำงานให้เขากับเจ้านาย คิด พูดและมองในมุมเดียวกัน ทำความเข้าใจให้ตรงกัน เจ้านายอาจหันมามองคุณด้วยสายตาที่ต่างไปจากเดิม มองข้ามอคติไปเห็นความสามารถที่แท้จริงของเรา และปฏิบัติตัวกับเราดีขึ้นก็ได้
แหมรับมือกับเจ้านายจู้จี้งี่เง่า ไม่ใช่เรื่องง่ายหรือสนุกหรอกใช่ไหมคะ แต่อย่างไรก็คงต้องพยายามปรับตัวกันไป ขอให้คำนึงถึงเป้าหมายของงานเป็นหลัก