Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

Grammar: หลักการใช้ Yes-No Question คำถามที่ต้องตอบ ใช่-ไม่ใช่ ก็บอกมา

Posted By Sasipim J. | 24 ก.ย. 60
152,309 Views

  Favorite

ในการสนทนากับคู่สนทนาที่เรามีข้อมูลอยู่บ้างแล้ว บางครั้ง เราต้องการถามเพียงเพื่อต้องการคำตอบแค่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” รูปประโยคคำถามเช่นนี้ในภาษาอังกฤษก็คือ Yes-No Question ซึ่งการสร้างประโยคเช่นนี้ไม่ยากเลยค่ะ มีหลักอย่างไรบ้าง เรามาดูกันเลย…


1. ถามนำขึ้นต้นด้วย Verb to be

ถ้าประโยคนั้นมี Verb to be ให้นำมาวางข้างหน้าได้เลย ดังเช่นรูปประโยคต่อไปนี้

ประโยคบอกเล่า

ประโยคคำถาม

การตอบ

  He is a teacher.
  (เขาคือคุณครู)

  Is he a teacher?
  (เขาคือคุณครูใช่ไหม?)

  Yes, he is.
  (ใช่ เขาเป็น)
  No, he isn’t.
  (ไม่ เขาไม่ได้เป็น)

  You are Japanese.
  (คุณเป็นคนญี่ปุ่น)

  Are you Japanese?
  (คุณเป็นคนญี่ปุ่นใช่ไหม?)

  Yes. I’m.
  (ใช่ ฉันเป็น)

  No, I’m not.
  (ไม่ ฉันไม่ได้เป็น)

  He was a doctor.
  (เขาเคยเป็นหมอ)

  Was he a doctor?
  (เขาเคยเป็นหมอหรือ?)

  Yes, he was.
  (ใช่ เขาเป็น)
  No, he wasn’t.
  (ไม่ เขาไม่ได้เป็น)

  They were at school yesterday.
  (เมื่อวาน พวกเขาอยู่ที่โรงเรียน)

  Were they at school yesterday?
  (เมื่อวาน พวกเขาอยู่ที่โรงเรียนหรือเปล่า?)

  Yes, they were.
  (ใช่ พวกเขาอยู่)
  No, they weren’t.
  (ไม่ เขาไม่ได้อยู่)


2. ถามขึ้นต้นด้วย Verb to do

ถ้าประโยคที่เราจะถามไม่มี Verb to be ให้นำ Verb to do มาใช้นำหน้าประโยค โดยใช้รูปเอกพจน์หรือพหูพจน์ตามประธาน ดังเช่นรูปประโยคต่อไปนี้

ประโยคบอกเล่า

ประโยคคำถาม

การตอบ

  You know her name.
  (คุณรู้จักชื่อของเธอ)

  Do you know her name?
  (คุณรู้จักชื่อของเธอไหม?)

  Yes, I do.
  (ค่ะ ฉันรู้จัก)
  No, I don’t.
  (ไม่ ฉันไม่รู้จัก)

  She plays the piano.
  (เธอเล่นเปียโน)

  Does she play the piano?
  (เธอเล่นเปียโนไหม?)

  Yes, she does.
  (ค่ะ เธอเล่นเปียโน)
  No, she doesn’t.
  (ไม่ค่ะ เธอไม่ได้เล่นเปียโน)

  You walked to school yesterday.
  (คุณเดินไปโรงเรียนเมื่อวาน?)

  Did you walk to school yesterday?
  (เมื่อวานนี้คุณเดินไปโรงเรียนหรือเปล่า?)

  Yes, I did.
  (ค่ะ ฉันเดินไปโรงเรียน)
  No, I didn’t.
  (ไม่ ฉันไม่ได้เดินไปโรงเรียน)


  **ข้อสังเกต เมื่อเราใช้ Do, Does หรือ Did อย่าลืมเปลี่ยนรูปกาลและพหูพจน์/เอกพจน์ตามประธานด้วยค่ะ


3. ถามขึ้นต้นด้วยกริยาช่วย

หากประโยคนั้นมีกริยาช่วยตัวอื่น ๆ เช่น Can, Could, Will, Would, Shall, Should ให้เอาคำกริยาเหล่านี้ขึ้นต้นแล้วตามด้วยประโยคคำถาม เช่น

ประโยคบอกเล่า

ประโยคคำถาม

การตอบ

  You can speak Chinese.
  (คุณพูดภาษาจีนได้)

  Can you speak Chinese?
  (คุณพูดภาษาจีนได้ไหม?)

  Yes, I can.
  (ค่ะ ฉันพูดได้)
  No, I can’t.
  (ไม่ค่ะ ฉันพูดไม่ได้)

  You will go with us.
  (คุณก็จะไปกับพวกเราด้วย)

  Will you go with us?
  (คุณจะไปกับพวกเราด้วยไหม?)

  Yes, I will.
  (ค่ะ ฉันจะไปด้วย)
  No, I won’t.
  (ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้ไปด้วย)

  You could tell me your name.
  (คุณจะบอกชื่อของคุณให้ฉันทราบ)

  Could you tell me your name?
  (คุณจะบอกชื่อของคุณให้ฉันทราบได้ไหม?)

 

  Yes, I could.
  (ค่ะ ฉันบอกได้)
  No, I couldn’t.
  (ไม่ค่ะ ฉันบอกไม่ได้)



พอได้ทราบการสร้างรูปประโยค Yes-No Question กันไปแล้วนะคะ เห็นไหมคะว่าไม่ยากเลย ขอให้ระวังเรื่องของการตอบรับให้สอดคล้องกับคำถาม เท่านี้ก็ถามมา ตอบไปได้ไม่มีสะดุดแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Sasipim J.
  • 6 Followers
  • Follow