ก. ประวัติการตั้งครรภ์ของมารดา การคลอด การเจ็บป่วยของมารดาในขณะตั้งครรภ์ อุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจมีปัญหากระทบกระเทือนต่อพัฒนาการทางสมองของเด็กได้ ปัญหาการเลี้ยงดูในด้านการกิน การนอน การขับถ่าย
ข. พัฒนาการทางด้านร่างกาย ด้านสังคม สัมพันธภาพกับบุคคลในบ้าน ด้านการสื่อความหมาย การพูดและการสื่อภาษามีความล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกันหรือไม่
ค. การแสดงออกทางพฤติกรรมของเด็กขณะอยู่ที่บ้าน
ง. บุคคลในครอบครัวหรือเครือญาติมีปัญหาเหมือนเด็กหรือไม่
จ. ประวัติการเจ็บป่วยของเด็กมีการกระทบกระเทือนต่อสมอง เช่น ไข้สูงมาก ๆ หรืออาการชัก
ยังไม่มีผู้รายงานเรื่องการตรวจพิเศษทางการแพทย์เพื่อใช้ในการวินิจฉัยโรคออทิซึมเลยทั้งเด็กออทิสติกที่มีประวัติการคลอดที่ผิดปกติหรือสมองขาดออกซิเจนจากการเจ็บป่วยรุนแรงที่กระทบกระเทือนต่อสมอง การมีไข้สูงและการชักหรือเด็กที่มีพฤติกรรมถดถอย เหม่อลอย ไม่รู้สึกตัวเป็นพัก ๆ หรือเด็กที่หัวเราะมากจนเกินไปโดยไม่สมเหตุสมผลควรได้รับการพิจารณาตรวจคลื่นสมองด้วยไฟฟ้าเพื่อนำมาประกอบการรักษาแต่ทั้งนี้จะใช้เป็นข้อวินิจฉัยว่าเป็นเด็กออทิสติกไม่ได้เนื่องจากลักษณะของคลื่นสมองที่ผิดปกติไม่ได้เป็นแบบจำเพาะสำหรับเด็กออทิสติก อีกทั้งการตรวจสมองด้วยวิธีพิเศษ เช่น MRI, CT - SCAN หรือ PET - SCAN มีค่าใช้จ่ายสูงมากจึงควรได้รับการพิจารณาส่งตรวจต่อเมื่อมีข้อชี้บ่งเป็นเฉพาะกรณีเท่านั้น
ควรพิจารณาส่งตรวจเมื่อเด็กออทิสติกได้รับการรักษาและช่วยเหลือจนเด็กสามารถพูดได้และเรียนรู้ได้แล้วเพื่อประโยชน์ในการจัดส่งเข้าชั้นเรียนที่เหมาะสมต่อไป
เด็กควรได้รับการตรวจพิเศษเพื่อทดสอบการได้ยินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คือ Auditory Brainstem Evoke Response (ABR)