โดยทั่วไปไอศกรีมประกอบไปด้วย น้ำ ไขมัน นมหรือนมผงขาดมันเนย สารให้ความหวาน สารให้ความคงตัว (Stabilizer) หรือสารที่ช่วยคงรูปร่างให้ไอศกรีมละลายช้าลง และอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) ซึ่งเป็นตัวช่วยให้น้ำเข้ากับน้ำมันได้ดีขึ้น ทำให้ไอศกรีมมีเนื้อเนียนสวย ซึ่งเมื่อผสมกันแล้วก็ทำให้มีรสชาติอร่อยถูกอกถูกใจใครหลาย ๆ คนทีเดียว แต่เรื่องหนึ่งที่ไม่ถูกใจเอาเสียเลย อีกทั้งยังไม่สามารถหลีกเลี่ยง ก็คือการละลายของไอศกรีม บางครั้งรับประทานไปได้ยังไม่ถึงครึ่งแท่ง ไอศกรีมก็ละลายเสียเกือบหมดแล้ว
ความบังเอิญนี้เริ่มจากการที่ทีมวิศวกรชาวญี่ปุ่น พยายามจะช่วยเหลือเกษตรกรในเมืองมิยากิของประเทศญี่ปุ่น หลังจากได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2011 ซึ่งสร้างความเสียหายต่อการเกษตรในท้องถิ่นอย่างมาก โดยเฉพาะฟาร์มสตรอเบอรี่ ดังนั้น ทีมวิศวกรจึงขอความช่วยเหลือจากเชฟทำขนม ให้สร้างขนมชนิดใหม่ที่ใช้โพลีฟีนอล (Polyphenol) จากสตรอเบอรี่เป็นส่วนผสมในขนมด้วย
เมื่อเชฟทำขนมเริ่มทดลองสร้างขนมสูตรใหม่จากโพลีฟีนอล เขาก็บอกถึงปัญหาของการที่ครีมแข็งตัวเมื่อผสมกับโพลีฟีนอลของสตรอเบอรี่ ทำให้ไม่สามารถทำขนมได้ ปัญหาข้อนี้ถูกส่งไปถึง Tomihisa Ota ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยคานาซาวา ซึ่งมันกลายเป็นคุณสมบัติที่น่าทึ่งสำหรับอาหารที่มีการละลายได้อย่างไอศกรีม
โพลีฟีนอลมีคุณสมบัติทำให้น้ำและน้ำมันแยกออกจากกันได้ยากขึ้น ดังนั้น ไอศกรีมที่ประกอบไปด้วยโพลีฟีนอลจึงสามารถคงรูปเดิมของมันได้นานกว่าไอศกรีมทั่วไป มีการทดลองการละลายของไอศกรีมสายพันธุ์ใหม่ในห้องอุณหภูมิ 25.6 องศาเซลเซียส ปรากฏว่าไอศกรีมนั้นคงรูปอยู่ได้นานถึง 17 นาทีก่อนที่มันจะเริ่มเปลี่ยนรูปไป รวมถึงการจำหน่ายไอศกรีมที่มีส่วนผสมของโพลีฟีนอลนี้ในเมืองคานาซาวาเอง ซึ่งมีอุณหภูมิทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 28 องศาเซลเซียส ก็ไม่มีปัญหาการละลายของไอศกรีมแต่อย่างใด นักวิจัยยังอ้างว่าไอศกรีมนี้สามารถทนต่อความร้อนของไดร์เป่าผมได้เป็นเวลานานด้วย